10 อันดับ หนังฝรั่ง ยอดนิยม ที่ตรงใจคุณมากที่สุดก่อนใคร

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาอะไรสนุกๆ ทำในวันหยุด หรืออยากผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าในแต่ละวัน การ ดูหนังฝรั่ง เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่หลายคนชื่นชอบแน่นอน ไม่ว่าจะแนวแอ็กชันสุดมันส์ ไซไฟสุดล้ำ โรแมนติกชวนฝัน หรือดราม่าเรียกน้ำตา หนังฮอลลีวูดและหนังจากฝั่งตะวันตกก็มักจะตอบโจทย์ความต้องการของเราได้เสมอ เพราะไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่หนังยังเปิดโลกทัศน์ให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรม ความคิด และเรื่องราวหลากหลายจากทั่วโลกอีกด้วย

คุณอาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่าการ ดูหนังฝรั่ง ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้ด้วยนะ ซึ่งเป็นเรื่องจริง! ยิ่งเราได้ยินสำเนียงและการใช้ภาษาของเจ้าของภาษาบ่อยๆ ก็จะช่วยให้เราคุ้นเคยและเข้าใจภาษาได้ดีขึ้น แถมยังได้เรียนรู้วลีหรือสำนวนใหม่ๆ ที่เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกต่างหาก เรียกว่าได้ทั้งความสนุกและประโยชน์ไปพร้อมๆ กันเลย

ยุคนี้การจะ ดูหนังฝรั่ง ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว เพราะมีแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Disney+ Hotstar, HBO Go หรือ Amazon Prime Video แค่มีอินเทอร์เน็ตก็สามารถเข้าถึงหนังดีๆ ได้แบบไม่จำกัด จะดูคนเดียวกับเพื่อน หรือจะดูกับครอบครัวก็ฟินได้ไม่แพ้กันเลย


1. Fantastic Beasts : The Secrets of Dumbledore

“Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore” พาเรากลับไปสู่ช่วงเวลาอันวุ่นวายในโลกเวทมนตร์ เมื่อเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ (Mads Mikkelsen) พ่อมดศาสตร์มืดผู้ทรงอิทธิพล เริ่มรวบรวมพรรคพวกเพื่อประกาศสงครามกับโลกของมักเกิ้ล ภายใต้สถานการณ์ที่คุกคามนี้ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ (Jude Law) ผู้ตระหนักถึงภัยร้ายที่กำลังคืบคลานเข้ามา ไม่สามารถต่อสู้กับกรินเดลวัลด์ได้โดยตรง เนื่องจากสนธิสัญญาเลือดที่ผูกมัดทั้งสองไว้ตั้งแต่สมัยหนุ่ม

จุดเด่นของเรื่องคือการเปิดเผยความลับอันซับซ้อนของตระกูลดัมเบิลดอร์ ซึ่งเป็นแกนกลางของภาพยนตร์ในภาคนี้ เราจะได้เห็นอดีตของอัลบัสที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ความสัมพันธ์ของเขากับอาเบอร์ฟอร์ธ น้องชาย รวมถึงเบื้องหลังของความขัดแย้งกับกรินเดลวัลด์ที่ฝังรากลึกและยากจะตัดขาด ความลับเหล่านี้ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องส่วนตัว แต่ส่งผลกระทบต่อทิศทางของโลกเวทมนตร์โดยรวม

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อนิวท์ สคามันเดอร์ (Eddie Redmayne) และคณะ ต้องออกเดินทางปฏิบัติภารกิจลับที่ได้รับมอบหมายจากดัมเบิลดอร์ เพื่อยับยั้งแผนการของกรินเดลวัลด์ที่ต้องการควบคุมกระทรวงเวทมนตร์และเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยอุปสรรคและอันตราย ตั้งแต่ป่าลึกในจีนไปจนถึงกรุงเบอร์ลิน และประเทศภูฏาน ฉากสำคัญที่น่าตื่นตาตื่นใจคือการเลือกตั้งผู้นำของสมาพันธ์พ่อมดนานาชาติ ซึ่งเป็นจุดที่กรินเดลวัลด์พยายามใช้เล่ห์เหลี่ยมและศาสตร์มืดเข้าแทรกแซงเพื่อชิงตำแหน่ง เพื่อเป้าหมายในการครอบงำโลก

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.hbomax.com/
  • นักแสดงหลัก: Eddie Redmayne, Jude Law, Ezra Miller, Dan Fogler, Alison Sudol, Callum Turner, Jessica Williams, Katherine Waterston, Mads Mikkelsen
  • ประเภท: ผจญภัย, แฟนตาซี, ดราม่า
  • ความยาว: 2 ชั่วโมง 22 นาที
  • กำหนดฉาย: 14 เมษายน 2565 (ประเทศไทย)
  • ช่องทางรับชม: hbomax

2. Spider-Man: No Way Home

สำหรับแฟน ๆ ของไอ้แมงมุมทั่วโลก “Spider-Man: No Way Home” ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ แต่เป็นประสบการณ์ มันคือการรวมตัวของมรดกสไปเดอร์แมนที่ยาวนานหลายทศวรรษ เข้าไว้ด้วยกันในภาพยนตร์เรื่องเดียวที่อัดแน่นไปด้วยอารมณ์ขัน ความตื่นเต้น และหัวใจที่ยิ่งใหญ่

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นอย่างร้อนระอุเมื่อโลกทั้งใบได้ล่วงรู้ความจริงว่า ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ คือสไปเดอร์แมน ชีวิตของเขาและคนรอบข้างกลับตาลปัตรจากหน้ามือเป็นหลังมือ ไม่ว่าจะเป็นเอ็มเจ เน็ด หรือแม้แต่ป้าเมย์ ทุกคนต้องเผชิญกับผลกระทบจากการเปิดเผยตัวตนในครั้งนี้ ด้วยความหวังที่จะแก้ไขทุกอย่าง ปีเตอร์ตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือจากด็อกเตอร์สเตรนจ์ ให้ร่ายมนตร์ลบความทรงจำที่ทุกคนรู้จักสไปเดอร์แมน

แต่แล้ว สิ่งที่ควรจะง่ายกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของมหันตภัยที่ใหญ่หลวงที่สุด เมื่อเวทมนตร์เกิดผิดพลาด ประตูมิติได้เปิดออก นำพาวายร้ายจากจักรวาลอื่น ๆ ที่เคยต่อสู้กับสไปเดอร์แมนในอดีต ไม่ว่าจะเป็นกรีนก็อบลิน, ด็อกเตอร์ออกโทปัส, แซนด์แมน, ลิซาร์ด และอิเล็กโตร กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในจักรวาลของปีเตอร์ พาร์คเกอร์! ฉากการต่อสู้ที่ปีเตอร์ต้องเผชิญหน้ากับเหล่าศัตรูตัวฉกาจเหล่านี้ บอกได้คำเดียวว่าทั้งตื่นเต้น เร้าใจ และสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.hotstar.com/
  • นักแสดงหลัก: ทอม ฮอลแลนด์, เซนเดยา, เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์, เจค็อบ บาตาลอน, มาริสา โทเม, จอน แฟฟโรว์, เจ.เค. ซิมมอนส์, วิลเลม เดโฟ, อัลเฟรด โมลินา, เจมี ฟ็อกซ์, โทบีย์ แมไกวร์, แอนดรูว์ การ์ฟิลด์
  • ประเภท: แอคชั่น, ผจญภัย, ไซไฟ
  • ความยาว: 2 ชั่วโมง 28 นาที
  • กำหนดฉาย: 15 ธันวาคม 2564 (ประเทศไทย)
  • ช่องทางรับชม: Disney+ Hotstar

3. Doctor Strange in the Multiverse of Madness

คุณพร้อมที่จะดำดิ่งสู่ห้วงมิติอันบ้าคลั่งที่ทุกความเป็นไปได้สามารถเกิดขึ้นได้แล้วหรือยัง? “Doctor Strange in the Multiverse of Madness” ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ธรรมดา แต่เป็นการเดินทางอันน่าตื่นตาตื่นใจที่ผสมผสานแอ็คชั่น เวทมนตร์ และความสยองขวัญเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการผจญภัยที่จะพาคุณไปสัมผัสกับความแปลกประหลาดและความอันตรายในพหุจักรวาล!

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อดร. สตีเฟน สเตรนจ์ ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เคย เมื่อเขาต้องปกป้อง อเมริกา ชาเวซ เด็กสาวผู้มีความสามารถพิเศษในการเดินทางข้ามพหุจักรวาล จากภัยคุกคามอันลึกลับที่ต้องการพลังของเธอ ความวุ่นวายครั้งนี้ทำให้สเตรนจ์ต้องขอความช่วยเหลือจากวอง จอมเวทย์สูงสุดคนปัจจุบัน และยังได้พบกับพันธมิตรที่คาดไม่ถึง นั่นคือ วันด้า แม็กซิมอฟฟ์ หรือสการ์เล็ต วิทช์ ผู้ที่มีพลังมหาศาลและกำลังเผชิญหน้ากับความโศกเศร้าจากการสูญเสียที่ผ่านมา

จุดเด่นของเรื่องอยู่ที่การเปิดประตูสู่ “พหุจักรวาลแห่งความบ้าคลั่ง” ที่ทำให้เราได้เห็น Doctor Strange ในเวอร์ชั่นต่างๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ละเวอร์ชั่นต่างก็มีความแตกต่างและนำเสนอแง่มุมใหม่ๆ ของตัวละครนี้ ไม่ว่าจะเป็น Doctor Strange ในโลกที่ล่มสลาย หรือแม้กระทั่ง Doctor Strange ที่กลายเป็นซอมบี้! การเดินทางข้ามมิติต่างๆ ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับภาพที่น่าทึ่งและฉากแอ็คชั่นสุดอลังการที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์และพลังเหนือธรรมชาติ

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.hotstar.com/
  • นักแสดงหลัก: เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์, เอลิซาเบธ โอลเซน, เบเนดิกต์ หว่อง, โซชิตล์ โกเมซ, ไมเคิล สตูห์ลบาร์ก, ราเชล แม็คอดัมส์
  • ประเภท: แอ็คชั่น, ผจญภัย, แฟนตาซี, สยองขวัญ, ซูเปอร์ฮีโร่
  • ความยาว: 2 ชั่วโมง 6 นาที
  • กำหนดฉาย: 4 พฤษภาคม 2565 (ประเทศไทย)
  • ช่องทางรับชม: Disney+ Hotstar

4. The Tomorrow War

ลองจินตนาการดูสิครับว่าวันหนึ่งขณะที่คุณกำลังใช้ชีวิตตามปกติ จู่ๆ ผู้คนจากอนาคตที่อีก 30 ปีข้างหน้า ก็โผล่มากลางสนามฟุตบอล พร้อมประกาศว่าโลกในอนาคตกำลังถูกรุกรานโดยสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่ดุร้าย และมนุษยชาติกำลังจะพ่ายแพ้! ฟังดูบ้าใช่ไหมครับ? แต่นี่คือจุดเริ่มต้นของ “The Tomorrow War” ครับ

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นกับ แดน ฟอร์เรสเตอร์ (Chris Pratt) อดีตทหารผ่านศึกที่ผันตัวมาเป็นครูสอนวิทยาศาสตร์ เขาคือชายผู้รักครอบครัวและพยายามใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย แต่แล้วชะตากรรมก็เล่นตลก เมื่อเขาถูกเกณฑ์ทหารภาคบังคับให้เดินทางข้ามเวลาไปสู่อนาคต เพื่อร่วมรบในสงครามแห่งความหวังสุดท้ายของมนุษยชาติ!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.primevideo.com/
  • นักแสดงหลัก: Chris Pratt, Yvonne Strahovski, J.K. Simmons, Betty Gilpin, Sam Richardson, Edwin Hodge
  • ประเภท: แอ็กชัน, ไซไฟ, ผจญภัย
  • ความยาว: 2 ชั่วโมง 18 นาที
  • กำหนดฉาย: 2 กรกฎาคม 2021 (ทั่วโลก)
  • ช่องทางรับชม: Prime Video

5. Pacific Rim แปซิฟิคริม สงครามอสูรเหล็ก

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อโลกต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่เรียกว่า “ไคจู” (Kaiju) ซึ่งผุดขึ้นมาจากรอยแยกใต้ทะเลแปซิฟิก พวกมันไม่เพียงแต่แข็งแกร่ง แต่ยังดูเหมือนไม่มีวันสิ้นสุด การทำลายล้างจากไคจูสร้างความหวาดกลัวและสิ้นหวังไปทั่วโลก แต่ท่ามกลางความมืดมิดนั้น มนุษย์ได้สร้างอาวุธสุดท้ายขึ้นมา นั่นคือ “เยเกอร์” (Jaeger) หุ่นยนต์ยักษ์ที่ควบคุมโดยนักบินสองคนซึ่งเชื่อมโยงจิตใจเข้าหากันผ่านระบบประสาทสัมผัสที่เรียกว่า “ดริฟท์” (Drift)

จุดเด่นของเรื่องอยู่ที่ความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างนักบินและหุ่นยนต์เยเกอร์ รวมถึงการร่วมมือร่วมใจกันของประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพื่อรับมือกับภัยคุกคามร่วมกัน ตัวละครหลักอย่าง ไรลีย์ เบ็คเก็ต (Raleigh Becket) อดีตนักบินเยเกอร์ที่ต้องกลับมาต่อสู้พร้อมกับความเจ็บปวดจากอดีต และ มาโกะ โมริ (Mako Mori) หญิงสาวผู้เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นและความสามารถที่ไม่ธรรมดา พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายทั้งภายในและภายนอก เพื่อปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดของตนเองและเยเกอร์ของพวกเขา

ฉากสำคัญที่ห้ามพลาดคือฉากการต่อสู้ระหว่างเยเกอร์และไคจูที่ดุเดือดและอลังการงานสร้าง แต่ละฉากเต็มไปด้วยพลังงาน เสียงกระทบกระแทกของเหล็กกล้า แรงระเบิด และการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วฉับไว ชวนให้ลุ้นระทึกทุกวินาที คุณจะรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในใจกลางสมรภูมิรบ! โดยเฉพาะฉากการต่อสู้ใต้น้ำที่น่าตื่นตาตื่นใจ และฉากไคลแม็กซ์ที่เหล่าเยเกอร์ต้องผนึกกำลังกันเพื่อหยุดยั้งการรุกรานของไคจูที่รุนแรงที่สุด ความหวังของมนุษยชาติแขวนอยู่บนเส้นด้าย และการเสียสละคือสิ่งเดียวที่จะนำไปสู่ชัยชนะ

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก: Charlie Hunnam, Idris Elba, Rinko Kikuchi, Charlie Day, Ron Perlman, Max Martini, Robert Kazinsky
  • ประเภท: แอ็กชัน, ผจญภัย, ไซไฟ
  • ความยาว: 2 ชั่วโมง 12 นาที
  • กำหนดฉาย: 12 กรกฎาคม 2013 (สหรัฐอเมริกา)
  • ช่องทางรับชม : Netflix

6. RED ONE เรดวัน

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อซานตาคลอส (รับบทโดย เจ.เค. ซิมมอนส์) ถูกลักพาตัวไปจากขั้วโลกเหนืออย่างลึกลับและไร้ร่องรอย! นี่คือเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและเป็นภัยคุกคามต่อเทศกาลคริสต์มาสทั่วโลก เพื่อกอบกู้สถานการณ์ฉุกเฉินนี้ มาเรีย (รับบทโดย เคียร์แนน ชิปก้า) หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยแห่งขั้วโลกเหนือ จึงต้องออกเดินทางไปยังโลกมนุษย์เพื่อขอความช่วยเหลือจาก เจค โอ’มอลลีย์ (รับบทโดย ดเวย์น “เดอะร็อก” จอห์นสัน) ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและอดีตเจ้าหน้าที่พิเศษมากฝีมือ ซึ่งถูกปลดประจำการและกำลังถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำสุดไฮเทค เพราะเขาคือบุคคลที่เก่งที่สุดในการตามหาตัวบุคคล

เจค โอ’มอลลีย์ เป็นที่รู้จักในนาม “ผู้ตามหา” ด้วยความสามารถพิเศษในการแกะรอยและระบุตำแหน่งของเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ไม่มีใครที่ถูกตามหาแล้วจะรอดพ้นไปได้ แต่ภารกิจในครั้งนี้ซับซ้อนกว่าที่เคย เขาไม่ได้แค่ตามหาคนธรรมดา แต่เป็นการตามหาซานตาคลอส! ในการตามหาซานต้า เจคต้องร่วมมือกับ “คลิฟฟ์” (รับบทโดย คริส อีแวนส์) ชายผู้มีความรู้และทักษะเฉพาะด้านที่เกี่ยวข้องกับโลกของคริสต์มาส แม้ว่าทั้งคู่จะมีความขัดแย้งและวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน แต่พวกเขาก็ต้องรวมพลังกันเพื่อไขปริศนาการหายตัวไปของซานต้าและกอบกู้เทศกาลแห่งความสุขให้กลับคืนมา

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.primevideo.com/
  • นักแสดงหลัก: ดเวย์น “เดอะร็อก” จอห์นสัน, คริส อีแวนส์, เจ.เค. ซิมมอนส์, ลูซี่ หลิว, เคียร์แนน ชิปก้า, บอนนี่ ฮันต์, แมรี่ เอลิซาเบธ เอลลิส
  • ประเภท: แอ็คชั่น, ผจญภัย, คอมเมดี้, แฟนตาซี
  • ความยาว: ยังไม่ประกาศ (โดยปกติภาพยนตร์ประเภทนี้จะมีความยาวประมาณ 90-120 นาที)
  • กำหนดฉาย: 15 พฤศจิกายน 2024
  • ช่องทางรับชม: Amazon Prime Video

7. Venom: The Last Dance เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ

ได้เวลาเตรียมตัวพบกับการผจญภัยครั้งสุดท้ายของคู่หูต่างโลกที่แฟน ๆ ทั่วโลกหลงรักใน “Venom: The Last Dance” ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่มาพร้อมกับการปิดฉากไตรภาคอันน่าจดจำ โดยในภาคนี้ เรื่องราวจะเข้มข้นขึ้นกว่าเดิมเมื่อ เอ็ดดี้ บร็อก และ เวน่อม ต้องเผชิญหน้ากับบททดสอบที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

เนื้อหาหลักของเรื่องจะเน้นไปที่การหลบหนีและค้นหาคำตอบ พวกเขาถูกตามล่าจากทั้งโลกมนุษย์และโลกของซิมบิโอต ทำให้ต้องออกเดินทางข้ามทวีปเพื่อตามหาต้นกำเนิดของเวน่อม และทำความเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นเป้าหมาย จุดเด่นของภาคนี้อยู่ที่การผสมผสานระหว่างแอ็คชั่นสุดระห่ำ อารมณ์ขันอันเป็นเอกลักษณ์ และฉากต่อสู้ที่ตื่นเต้นเร้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากที่เวน่อมใช้พลังในการแปลงร่างและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นความสามารถที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน

ฉากสำคัญที่น่าจับตามองคือการเผชิญหน้ากับศัตรูใหม่ที่เป็นซิมบิโอตสายพันธุ์อื่น ๆ ที่แข็งแกร่งและมีพลังที่แตกต่างออกไป รวมถึงการปรากฏตัวของตัวละครลับที่จะมาช่วยไขปริศนาเกี่ยวกับโลกของซิมบิโอต ท่ามกลางสถานการณ์คับขันที่ชวนให้ลุ้นระทึกไปกับการตัดสินใจของเอ็ดดี้และเวน่อมว่าพวกเขาจะเลือกทางไหน เพื่อเอาชีวิตรอดและปกป้องโลกใบนี้จากการคุกคามที่ไม่อาจคาดเดาได้

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก: ทอม ฮาร์ดี้, จูโน่ เทมเปิล, ชิวีเทล เอจิโอฟ
  • ประเภท: แอ็คชั่น, ไซไฟ, ระทึกขวัญ
  • ความยาว: ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ (แต่คาดการณ์ว่าจะประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง)
  • กำหนดฉาย: 24 ตุลาคม 2567
  • ช่องทางรับชม : Netflix

8. The Idea of You (ภาพฝัน ฉันกับเธอ)

“The Idea of You” พาเราดำดิ่งสู่เรื่องราวของ โซเลเน่ (แอนน์ แฮทธาเวย์) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัย 40 ที่เพิ่งผ่านพ้นวิกฤตชีวิตคู่ เธอต้องไปดูแลลูกสาววัยทีนอย่างอิซซี่ ที่เทศกาลดนตรีโคเชลล่าแทนอดีตสามีที่เบี้ยวนัด ใครจะคิดว่าการมาครั้งนี้ จะพาเธอไปพบกับ “พรหมลิขิต” ที่ไม่ธรรมดา นั่นคือ เฮย์ส แคมป์เบลล์ (นิโคลัส กาลิทซีน) นักร้องหนุ่มหล่อวัย 24 ปีจากวงบอยแบนด์ชื่อดัง August Moon ที่กำลังเป็นที่คลั่งไคล้ของสาวๆ ทั่วโลก

จากอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ หลังเวทีโคเชลล่า กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ยากจะคาดเดา โซเลเน่และเฮย์สต่างดึงดูดเข้าหากันด้วยเคมีที่ร้อนแรงและความเข้าใจที่เหนือกว่าอายุที่แตกต่างกันมากนัก เฮย์สหลงใหลในความเฉลียวฉลาดและเป็นตัวของตัวเองของโซเลเน่ ขณะที่โซเลเน่เองก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจและอ่อนโยนภายใต้ภาพลักษณ์ซูเปอร์สตาร์ของเฮย์ส

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.primevideo.com/
  • นักแสดงหลัก: แอนน์ แฮทธาเวย์, นิโคลัส กาลิทซีน, เอลล่า รูบิน, รีด สก็อตต์, จอร์แดน แอรอน ฮอลล์, แอนนี่ มัมโมโล, วิคตอเรีย โกกา
  • ประเภท: โรแมนติก, คอมเมดี้, ดราม่า
  • ความยาว: 1 ชั่วโมง 55 นาที
  • กำหนดฉาย: 2 พฤษภาคม 2567
  • ช่องทางรับชม: Prime Video

9. เรด ไวท์ & รอยัล บลู รักของผมกับเจ้าชาย

เคยจินตนาการไหมว่าถ้าลูกชายประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกิดไปมีเรื่องบาดหมางกับเจ้าชายแห่งอังกฤษ จะเกิดอะไรขึ้น? นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวโรแมนติกคอมเมดี้สุดละมุน “Red, White & Royal Blue” ที่จะทำให้คุณอมยิ้มและฟินไปกับเคมีสุดลงตัวของตัวละครหลัก!

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ อเล็กซ์ แคลร์มองต์-ดิแอซ (Taylor Zakhar Perez) ลูกชายสุดฮอตและมีเสน่ห์ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ (Uma Thurman) ต้องเผชิญหน้ากับ เจ้าชายเฮนรี่ (Nicholas Galitzine) เจ้าชายผู้เคร่งขรึมและสง่างามแห่งราชวงศ์อังกฤษ จากความเข้าใจผิดและอุบัติเหตุ “เค้กแต่งงานล้ม” สุดอื้อฉาวในงานพระราชพิธีสำคัญ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูเหมือนจะเริ่มต้นด้วยความไม่ลงรอยและเป็นคู่ปรับกันอย่างเห็นได้ชัด

แต่เพราะภาพลักษณ์ที่ต้องรักษา เพื่อไม่ให้เกิดวิกฤตความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (และเพื่อไม่ให้แม่ของอเล็กซ์เสียคะแนนเสียงในการเลือกตั้ง!) ทั้งสองฝ่ายจึงจำเป็นต้องจัดฉากสร้างมิตรภาพขึ้นมา โดยให้ทั้งอเล็กซ์และเจ้าชายเฮนรี่ต้องร่วมกิจกรรมออกงานสังคมด้วยกันบ่อยครั้ง

และแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น…จากความบาดหมาง กลายเป็นความเข้าใจ จากการแกล้งทำเป็นเพื่อน ก็กลายเป็นมิตรภาพที่แท้จริง และก่อนจะรู้ตัว ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนี้ก็แปรเปลี่ยนเป็น ความรักต้องห้าม ที่แสนจะเย้ายวนใจ อเล็กซ์ผู้เปี่ยมไปด้วยไฟแรงและเจ้าชายเฮนรี่ผู้ถูกผูกมัดด้วยขนบธรรมเนียม ต้องพยายามหาทางออกให้กับความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางสายตาของสาธารณชนและภาระหน้าที่อันใหญ่หลวง

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.primevideo.com/
  • นักแสดงหลัก: Taylor Zakhar Perez, Nicholas Galitzine, Uma Thurman, Sarah Shahi, Rachel Hilson, Clifton Collins Jr., Stephen Fry, Ellie Bamber, Thomas Flynn
  • ประเภท: โรแมนติก, คอมเมดี้, LGBTQ+
  • ความยาว: 1 ชั่วโมง 58 นาที
  • กำหนดฉาย: 11 สิงหาคม 2023
  • ช่องทางรับชม: Prime Video

10. Purple Hearts เพอร์เพิลฮาร์ท

“Purple Hearts” เล่าเรื่องราวของ แคสซี่ ซาลาซาร์ (รับบทโดย โซเฟีย คาร์สัน) นักร้องนักแต่งเพลงสาวที่กำลังดิ้นรนหารายได้เพื่อซื้ออินซูลินสำหรับโรคเบาหวานของเธอ และ ลุค มอร์โรว์ (รับบทโดย นิโคลัส กาลิตซีน) ทหารนาวิกโยธินหนุ่มที่กำลังเผชิญหน้ากับภาระหนี้สินมหาศาล ทั้งสองคนมาจากคนละขั้วโลกที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเข้ากันได้เลย แต่ด้วยความจำเป็นที่บีบคั้น พวกเขาจึงตัดสินใจ “แต่งงานปลอมๆ” เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางการทหาร ไม่ว่าจะเป็นเงินค่าครองชีพหรือสวัสดิการด้านสุขภาพ

เรื่องราวเริ่มเข้มข้นขึ้นเมื่อชีวิตของทั้งคู่ต้องมาผูกติดกันภายใต้กฎเกณฑ์ของการแต่งงานปลอมๆ พวกเขาต้องแสร้งทำเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบต่อหน้าสาธารณะ แต่เบื้องหลังกลับเต็มไปด้วยความอึดอัดใจและความแตกต่าง พวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน แลกเปลี่ยนความลับ และเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงทีละน้อย

จุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อลุคได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการรบ ทำให้เขาต้องกลับมาพักฟื้นที่บ้าน และนั่นคือช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ของแคสซี่และลุคเริ่มเปลี่ยนผ่านจาก “สัญญา” ไปสู่ “ความรู้สึก” ที่แท้จริง การดูแลซึ่งกันและกันในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ทำให้พวกเขาได้เห็นถึงความอ่อนแอ ความเข้มแข็ง และความรักที่ซ่อนอยู่ในตัวอีกฝ่าย

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก: โซเฟีย คาร์สัน, นิโคลัส กาลิตซีน, ชอซิน่า บลัซเซ็ตต์, จอห์น ฮาร์ลาน คิม, ลินเดน แอชบี, แคท คันนิ่ง, เลอเรนซ์ เทท, ซาร่าห์ ริชมอนด์, สกอตต์ ฟอร์รี
  • ประเภท: ดราม่า, เพลง, โรแมนติก
  • ความยาว: 2 ชั่วโมง 2 นาที
  • กำหนดฉาย: 29 กรกฎาคม 2565 (ทั่วโลก)
  • ช่องทางรับชม: Netflix

และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมการ ดูหนังฝรั่ง ถึงยังคงเป็นกิจกรรมยอดนิยมที่ไม่เคยตกยุค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความบันเทิงอันหลากหลาย การเปิดโลกทัศน์ หรือแม้แต่ประโยชน์ด้านภาษา การใช้เวลาไปกับการดูหนังดีๆ สักเรื่องจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ได้ทั้งความสุขและแรงบันดาลใจกลับมาเต็มๆ

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณได้ไอเดียดีๆ ในการใช้เวลาว่าง และจุดประกายให้อยากออกไปสำรวจโลกของภาพยนตร์ต่างประเทศกันมากขึ้นนะ เพราะในโลกของหนังยังมีอะไรสนุกๆ รอให้เราค้นพบอีกเยอะเลยล่ะ!


แชร์บทความนี้