10 อันดับ หนังแฟนตาซี ที่ดีที่สุดตลอดกาล

1. มาเลฟิเซนต์: นางพญาปีศาจ

“มาเลฟิเซนต์: นางพญาปีศาจ” ไม่ได้เป็นเพียงภาคต่อที่สานต่อเรื่องราวจากภาคแรก แต่เป็นการยกระดับความเข้มข้นของปมขัดแย้ง ความสัมพันธ์ และนิยามของ “ครอบครัว” ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น หากภาคแรกคือการเปิดเผยหัวใจที่ซ่อนเร้นของนางฟ้าผู้ถูกเข้าใจผิด ภาคนี้คือการเผชิญหน้ากับโลกภายนอกที่เต็มไปด้วยอคติ และความหวาดระแวง

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นอย่างสดใส เมื่อเจ้าหญิงออโรร่า (เอล แฟนนิ่ง) ได้รับการขอแต่งงานจากเจ้าชายฟิลลิป (แฮร์ริส ดิกคินสัน) ซึ่งเป็นข่าวดีที่สร้างความปลาบปลื้มให้แก่ทุกคน ยกเว้นเพียงมาเลฟิเซนต์ (แอนเจลินา โจลี) ผู้เป็นแม่ทูนหัวที่รักและหวงแหนออโรร่าเหนือสิ่งอื่นใด เธอไม่แน่ใจในความตั้งใจของมนุษย์ และกังวลว่าการแต่งงานครั้งนี้จะดึงออโรร่าออกไปจากโลกแห่งเวทมนตร์ของเธอ

จุดหักเหที่สำคัญและชวนให้คนดูนั่งไม่ติดเก้าอี้คือ ฉากมื้อค่ำอันน่าอึดอัดที่ปราสาทของกษัตริย์จอห์นและราชินีอิงกริธ ราชินีอิงกริธ (มิเชลล์ ไฟเฟอร์) ผู้มีสีหน้ายิ้มแย้มแต่แฝงไปด้วยความเย็นชา ได้เผยธาตุแท้ของตนด้วยคำพูดที่เสียดแทงจิตใจมาเลฟิเซนต์ และแผนการร้ายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความพยายามที่จะรวมสองอาณาจักรเข้าด้วยกัน คำกล่าวหาที่ว่ามาเลฟิเซนต์เป็นผู้สาปแช่งกษัตริย์จอห์นในระหว่างมื้ออาหารนั้น เป็นจุดชนวนให้เกิดความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ และนำไปสู่การปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างมาเลฟิเซนต์และกองทัพมนุษย์ ทำให้มาเลฟิเซนต์ต้องหนีไป และค้นพบความจริงเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ของเธอเอง

อีกหนึ่งฉากที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การค้นพบเผ่าพันธุ์ดาร์คเฟย์ (Dark Fae) มาเลฟิเซนต์ได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่มีปีกคล้ายกับเธอ ผู้ซึ่งถูกขับไล่และซ่อนตัวอยู่ในเงามืด การได้พบกับพวกเขาทำให้เธอเข้าใจถึงรากเหง้าของตัวเอง และจุดประกายความหวังในการต่อสู้เพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์ของเธอและโลกแห่งเวทมนตร์