
เอ้า ทุกคน! ใครเป็นสายติดซีรีส์ ยกมือขึ้น! แล้วยิ่งถ้าเป็น ซีรีส์หมอ นี่คือต้องห้ามพลาดเลยนะ บอกเลยว่าวงการแพทย์ในจอแก้วของเราเนี่ย ไม่ได้มีแค่คุณหมอหล่อ ๆ สวย ๆ มาเดินผ่านไปผ่านมาให้ใจเต้นเล่นนะ แต่ละเรื่องคือเขาจัดเต็มความรู้ทางการแพทย์สุดเข้มข้น ดราม่าสุดหน่วง จนบางทีก็ต้องลุ้นยิ่งกว่าตรวจสุขภาพประจำปีอีก! เตรียมทิชชูไว้เลย เพราะบางทีก็ซึ้งจนน้ำตาแตก หรือไม่ก็เครียดจนปวดหัวตามตัวละครไปซะงั้นแหละ
คุณอาจจะสงสัยว่าทำไม ซีรีส์หมอ ถึงได้ครองใจคนดูทั่วบ้านทั่วเมืองได้ขนาดนี้? ก็เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องราวการรักษาโรคภัยไข้เจ็บไง แต่ลึก ๆ แล้วมันคือการสะท้อนชีวิต มุมมองของคนที่ทำงานภายใต้ความกดดันที่ต้องแบกรับชีวิตคนไข้เอาไว้ ยิ่งเห็นความทุ่มเทของพวกเขา เรายิ่งรู้สึกอินตามไปกับทุกเคส ไม่ว่าจะเจอเรื่องราวสุข เศร้า เหงา หรือแม้กระทั่งความสูญเสียในแต่ละวัน มันทำให้เราได้เห็นอีกด้านของชีวิตหมอที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยล่ะ
ไม่ว่าจะเป็น ซีรีส์หมอ เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่ง หรือไทย แต่ละเรื่องก็มีสไตล์ที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ การนำเสนอเรื่องราวทางการแพทย์ที่น่าสนใจ และการเจาะลึกเข้าไปในจิตใจของตัวละครที่ต้องเผชิญกับความท้าทายในแต่ละวัน คุณจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละคร ได้เรียนรู้เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมทางการแพทย์ และบางทีก็แอบได้เกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ มาปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้ด้วยนะ บอกเลยว่าดู ซีรีส์หมอ ไม่ได้มีแค่ความบันเทิงอย่างเดียว แต่ยังได้ข้อคิดดีๆ กลับไปอีกเพียบ!
1. Doctor Slump หัวใจหมอไม่มอดไหม้
หากคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่ไม่ได้มีแค่เรื่องราวความรักโรแมนติก แต่ยังเต็มไปด้วยแง่คิดดีๆ เกี่ยวกับชีวิต การเติบโต และการเยียวยาจิตใจ “Doctor Slump หัวใจหมอไม่มอดไหม้” คือคำตอบที่คุณห้ามพลาด! ซีรีส์เรื่องนี้จะพาคุณไปสำรวจเบื้องลึกเบื้องหลังของอาชีพหมอที่หลายคนมองว่าเป็นอาชีพในฝัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับความกดดัน ความผิดพลาด และช่วงเวลาที่หัวใจมอดไหม้ได้เช่นกัน
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ยอจองอู (รับบทโดย พัคฮยองชิก) ศัลยแพทย์ตกแต่งชื่อดังที่ชีวิตกำลังรุ่งโรจน์ถึงขีดสุด กลับต้องเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ที่ทำให้ชีวิตของเขาล่มสลายในพริบตา เขากลายเป็นผู้ต้องหาในคดีที่เขาไม่ได้ก่อ และต้องสูญเสียทุกอย่างที่สร้างมา
ในขณะเดียวกัน นัมฮานึล (รับบทโดย พัคชินฮเย) วิสัญญีแพทย์ผู้เก่งกาจและทะเยอทะยานที่ชีวิตถูกกำหนดด้วยการเรียนและการทำงานอย่างหนักมาตลอด ก็ต้องเผชิญกับภาวะหมดไฟและซึมเศร้าจากการทำงานหนักเกินไป เธอเริ่มตั้งคำถามกับเส้นทางชีวิตที่เลือกเดิน และความสุขที่แท้จริง
โชคชะตาเล่นตลก เมื่อทั้งสองคนที่เคยเป็นคู่ปรับกันสมัยเรียนมัธยมปลาย ได้โคจรกลับมาพบกันอีกครั้งในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุดของชีวิต จากคู่แข่งที่เคยขับเคี่ยวกันเรื่องเรียน วันนี้พวกเขากลับกลายเป็นเพื่อนบ้านที่ต่างคนต่างแบกรับความเจ็บปวดไว้ในใจ การกลับมาพบกันครั้งนี้จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเยียวยาซึ่งกันและกันอย่างไม่คาดฝัน

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
- นักแสดงหลัก: พัคฮยองชิก, พัคชินฮเย, ยุนพัค, กงซองฮา
- ประเภท: การแพทย์, โรแมนติกคอมเมดี้, ดราม่า, ชีวิต
- จำนวนตอน: 16 ตอน
- กำหนดฉาย: 27 มกราคม 2567
- ช่องทางรับชม: Netflix
2. Dr. Romantic 3
ในซีซั่นที่ 3 ของ “Dr. Romantic” เราได้กลับมายังโรงพยาบาลทลดัมอันคุ้นเคย สถานที่ที่ไม่ใช่แค่โรงพยาบาลธรรมดา แต่เป็นดั่งป้อมปราการแห่งความหวังที่ก่อตั้งโดย อาจารย์คิม (รับบทโดย ฮันซอกกยู) แพทย์ฝีมือฉกาจผู้เปี่ยมด้วยอุดมการณ์และความบ้าบิ่น ในภาคนี้ อาจารย์คิมยังคงยึดมั่นในปรัชญา “การช่วยชีวิตผู้ป่วยต้องมาก่อนเสมอ” แม้จะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคถาโถมจากทั้งภายนอกและภายในก็ตาม
จุดเด่นสำคัญของ “Dr. Romantic 3” คือการยกระดับความท้าทายขึ้นไปอีกขั้น จากเดิมที่เน้นการต่อสู้กับระบบสาธารณสุขที่ไม่เป็นธรรมและการแย่งชิงอำนาจ คราวนี้โรงพยาบาลทลดัมต้องเผชิญกับ การก่อตั้งศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน (Trauma Center) ซึ่งเป็นความฝันของอาจารย์คิมมาตลอด เพื่อให้สามารถรองรับผู้ป่วยหนักจากอุบัติเหตุหรือภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่แน่นอนว่าหนทางสู่ความฝันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การเปิดศูนย์ Trauma Center นี้เป็นเหมือนดาบสองคมที่นำพามาซึ่งความขัดแย้งกับอำนาจภายนอก และยังต้องรับมือกับความท้าทายในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลและงบประมาณที่จำกัด
ฉากสำคัญที่ตราตรึงใจ มีอยู่มากมายในซีซั่นนี้ แต่ที่โดดเด่นและสะท้อนใจความของเรื่องราวได้อย่างลึกซึ้งคือ ฉากที่อาจารย์คิมและทีมแพทย์ต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ท่ามกลางวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ภัยธรรมชาติที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก หรือการเผชิญหน้ากับการเมืองภายในโรงพยาบาล ฉากเหล่านี้ไม่ได้แสดงแค่ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังเผยให้เห็นถึงความทุ่มเท ความเสียสละ และความเจ็บปวดที่ต้องแบกรับในฐานะผู้กอบกู้ชีวิต ในทุก ๆ การตัดสินใจ เราจะได้เห็นความลังเลใจ ความกดดัน และสุดท้ายคือการยึดมั่นในคำปฏิญาณของแพทย์เหนือสิ่งอื่นใด

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.hotstar.com/th/onboarding
- นักแสดงหลัก: ฮันซอกกยู, อันฮโยซอบ, อีซองคยอง, คิมมินแจ, โซจูยอน, ยุนนามู, ชินดงอุค
- ประเภท: การแพทย์, ดราม่า, โรแมนติก
- จำนวนตอน: 16 ตอน
- กำหนดฉาย: 28 เมษายน 2566
- ช่องทางรับชม: Disney+ Hotstar
3. Brain Works สืบสมองเจาะคดีเดือด
หากคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่ทั้งเข้มข้น ลุ้นระทึก และเต็มไปด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ประสาท ต้องไม่พลาด “Brain Works สืบสมองเจาะคดีเดือด” ซีรีส์เกาหลีที่พาเราดำดิ่งสู่โลกแห่งสมองและพฤติกรรมมนุษย์ การเล่าเรื่องที่กระชับ ฉับไว ชวนติดตาม ทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังไขปริศนาไปพร้อมกับตัวละคร
“Brain Works” นำเสนอเรื่องราวของ ชินฮารู (รับบทโดย จองยงฮวา) นักประสาทวิทยาอัจฉริยะแต่มีบุคลิกเย็นชาและหยิ่งยโส เขามักจะมองว่าสมองคือทุกสิ่งทุกอย่าง และมนุษย์ก็เป็นแค่ผลผลิตจากสมองเท่านั้น ซึ่งความคิดสุดโต่งนี้ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งสำคัญเมื่อต้องมาร่วมงานกับ กึมมยองเซ (รับบทโดย ชาแทฮยอน) นักสืบสายสืบสวนสอบสวนฝีมือดีแต่มีนิสัยซื่อตรงและใจร้อน ทั้งสองคนมีบุคลิกที่แตกต่างกันสุดขั้ว แต่ต้องมาร่วมมือกันใน “ทีมสืบสวนสมอง” เพื่อไขคดีอาชญากรรมสุดซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางสมอง
“Brain Works” เป็นซีรีส์ที่ไม่ได้แค่ให้ความบันเทิง แต่ยังมอบความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับสมองและพฤติกรรมมนุษย์อีกด้วย หากคุณเป็นคนที่ชอบซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนที่เน้นความเฉลียวฉลาดและการใช้เหตุผล พลาดไม่ได้เลยกับซีรีส์เรื่องนี้!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.viu.com/
- นักแสดงหลัก: จองยงฮวา, ชาแทฮยอน, ควักซอนยอง, เยจีวอน
- ประเภท: ลึกลับ, คอมเมดี้, อาชญากรรม, การแพทย์, วิทยาศาสตร์
- จำนวนตอน: 16 ตอน
- กำหนดฉาย: 2 มกราคม 2566
- ช่องทางรับชม: Viu
4. Ghost Doctor คุณหมอสองวิญญาณ
หากคุณกำลังมองหาซีรีส์หมอที่ไม่ใช่แค่เรื่องราวการช่วยชีวิต แต่ผสมผสานความลึกลับเหนือธรรมชาติ คอมเมดี้ชวนหัว และดราม่าเรียกน้ำตาได้อย่างลงตัว “Ghost Doctor คุณหมอสองวิญญาณ” คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด!
เรื่องราวสุดป่วนเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ชา ยองมิน (รับบทโดย เรน) ศัลยแพทย์ทรวงอกมือฉมัง ผู้มีฝีมือระดับเทพ แต่กลับมีนิสัยเย่อหยิ่ง จองหอง และไม่สนใจใคร นอกจากตัวเลขความสำเร็จของตัวเอง เขาต้องประสบอุบัติเหตุไม่คาดฝันจนวิญญาณหลุดออกจากร่างและกลายเป็น “ผี” ที่ไม่สามารถสัมผัสสิ่งใดๆ ได้
ในขณะเดียวกัน โก ซึงทัก (รับบทโดย คิมบอม) แพทย์ประจำบ้านปีหนึ่ง (อินเทิร์น) ที่มาจากตระกูลร่ำรวย มีความรู้ทางทฤษฎีเป๊ะปัง แต่กลับกลัวเลือด ไม่ถนัดการลงมือทำ และมักจะทำเรื่องเปิ่นๆ อยู่เสมอ โชคชะตาเล่นตลกให้โก ซึงทัก เป็นคนเดียวที่สามารถมองเห็นและสัมผัสวิญญาณของชา ยองมินได้!
“Ghost Doctor คุณหมอสองวิญญาณ” ไม่ใช่แค่ซีรีส์ที่ดูสนุก แต่ยังเป็นเรื่องราวที่ชวนให้ฉุกคิดถึงคุณค่าของชีวิต การเสียสละ และความหมายที่แท้จริงของการเป็นผู้ให้ สัมผัสความตลก ซาบซึ้ง และเรื่องราวสุดประทับใจไปพร้อมกันในซีรีส์เรื่องนี้!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.viu.com/
- นักแสดงหลัก: เรน (Rain), คิมบอม (Kim Bum), ยูอี (Uee), ซนนาอึน (Son Na Eun)
- ประเภท: การแพทย์, แฟนตาซี, คอมเมดี้, ดราม่า
- จำนวนตอน: 16 ตอน
- กำหนดฉาย: 3 มกราคม 2565
- ช่องทางรับชม: Viu
5. Doctor Lawyer ด็อกเตอร์ ลอว์เยอร์
“Doctor Lawyer” ไม่ใช่แค่ซีรีส์หมอทั่วไป แต่เป็นเรื่องราวการต่อสู้เพื่อทวงคืนความยุติธรรมที่เข้มข้นและน่าติดตาม จนคุณต้องลุ้นตามทุกนาที เมื่อศัลยแพทย์ฝีมือดีที่สุดกลับกลายมาเป็นทนายความ เพื่อเปิดโปงความจริงเบื้องหลังโศกนาฏกรรมที่พรากทุกสิ่งไปจากเขา
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นด้วยชีวิตที่รุ่งโรจน์ของ ฮันอีฮัน (รับบทโดย โซจีซบ) ศัลยแพทย์อัจฉริยะที่ได้รับการยอมรับจากทุกคน เขาเป็นผู้ที่ยึดมั่นในจรรยาบรรณแพทย์และทุ่มเททุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตคนไข้ แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อการผ่าตัดที่ดูเหมือนจะสำเร็จ กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้ายที่ทำให้เขาสูญเสียทุกอย่าง ทั้งอาชีพ ชื่อเสียง และแม้กระทั่งคนรัก
ฉากสำคัญที่พลิกผันชีวิตของอีฮัน คือการที่เขาถูกปรักปรำว่าเป็นผู้ทำให้คนไข้เสียชีวิตจากการผ่าตัด เหตุการณ์นั้นถูกจัดฉากอย่างแนบเนียน และเบื้องหลังนั้นเต็มไปด้วยการทุจริตและการสมรู้ร่วมคิดของผู้มีอำนาจ เขาถูกถอดถอนใบอนุญาต ถูกสังคมประณาม และจมดิ่งสู่ความมืดมิด
แต่ความมืดมิดนั้นกลับเป็นจุดเริ่มต้นของแสงสว่างใหม่ 5 ปีต่อมา ฮันอีฮันกลับมาอีกครั้ง ไม่ใช่ในฐานะหมอ แต่เป็น “ทนายความ” ผู้ที่พร้อมจะใช้ความรู้ทางการแพทย์และกฎหมายอันเฉียบคมเพื่อเปิดโปงความจริง และนำผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทำลายชีวิตเขามาลงโทษให้ได้

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.hotstar.com/
- นักแสดงหลัก: โซจีซอบ, อิมซูฮยาง, ชินซองรก, นัมโบรา, อียองจิน
- ประเภท: กฎหมาย, การแพทย์, ดราม่า, ระทึกขวัญ
- จำนวนตอน: 16 ตอน
- กำหนดฉาย: 3 มิถุนายน 2565
- ช่องทางรับชม: Disney+ Hotstar
6. Hospital Playlist เพลย์ลิสต์ชุดกาวน์
“Hospital Playlist” หรือ “เพลย์ลิสต์ชุดกาวน์” เป็นซีรีส์เกาหลีแนวการแพทย์ที่แตกต่างออกไปจากซีรีส์หมอที่เราคุ้นเคยกัน ไม่ได้เน้นแค่เรื่องราวทางการแพทย์ที่ซับซ้อน แต่กลับพาเราไปสัมผัสกับมิตรภาพ ความอบอุ่น และเรื่องราวชีวิตประจำวันของกลุ่มเพื่อนหมอทั้ง 5 คน ที่เป็นกำลังใจให้กันและกันมาตั้งแต่สมัยเรียนแพทย์ ความผูกพันของพวกเขาเป็นเหมือนหัวใจหลักที่ขับเคลื่อนเรื่องราวทั้งหมด ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีเสน่ห์และน่าติดตามอย่างมาก
ซีรีส์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวของศาสตราจารย์แพทย์ 5 คน ได้แก่ อิกจุน, จองวอน, จุนวาน, ซอกฮยอง และซงฮวา ที่ต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาของตัวเอง พวกเขาทำงานอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกัน และแม้จะต้องเผชิญกับความกดดันในหน้าที่การงาน ความท้าทายในการรักษาผู้ป่วย และเรื่องราวมากมายในชีวิตส่วนตัว แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือ มิตรภาพอันแน่นแฟ้น ของพวกเขา ทุกสัปดาห์เพื่อนทั้ง 5 จะมารวมตัวกันเพื่อเล่นดนตรีในวงของพวกเขา ซึ่งเป็นเหมือนช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลายและเยียวยาจิตใจ ทำให้เราได้เห็นมุมที่ผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติของเหล่าคุณหมอ
“Hospital Playlist” จึงไม่ใช่แค่ซีรีส์หมอ แต่เป็นซีรีส์ที่สะท้อนชีวิต มิตรภาพ และความรักในรูปแบบที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความหวัง ถ้าคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่ช่วยเยียวยาจิตใจ ให้ความรู้สึกดี ๆ และทำให้คุณยิ้มตามได้ตลอดเรื่อง “Hospital Playlist” คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาดเลย!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
- นักแสดงหลัก: โจจองซอก, ยูยอนซอก, จองคยองโฮ, คิมแดมยอง, จอนมีโด
- ประเภท: การแพทย์, มิตรภาพ, ชีวิต, ดราม่า, คอมเมดี้
- จำนวนตอน:
- ซีซั่น 1: 12 ตอน
- ซีซั่น 2: 12 ตอน
- กำหนดฉาย:
- ซีซั่น 1: 12 มีนาคม 2020 – 28 พฤษภาคม 2020
- ซีซั่น 2: 17 มิถุนายน 2021 – 16 กันยายน 2021
- ช่องทางรับชม: Netflix
7. Doctors ตรวจใจเธอให้เจอรัก
หากคุณกำลังมองหาซีรีส์หมอที่ไม่ได้มีแค่เรื่องราวทางการแพทย์อันเข้มข้น แต่ยังอบอวลไปด้วยความรัก ความหวัง และการเติบโตของตัวละคร ขอแนะนำ “Doctors ตรวจใจเธอให้เจอรัก” ซีรีส์เกาหลีที่เคยสร้างปรากฏการณ์ความนิยมเมื่อปี 2016 ที่จะทำให้คุณอินไปกับการเดินทางของ “ยูฮเยจอง” คุณหมอผู้เคยมีอดีตที่เจ็บปวด และ “ฮงจีฮง” อาจารย์หมอผู้เป็นเหมือนแสงสว่างนำทางชีวิต
เรื่องราวเริ่มต้นด้วยชีวิตที่พลิกผันของ ยูฮเยจอง (รับบทโดย พัคชินฮเย) เด็กสาวมัธยมปลายผู้มีบาดแผลในใจจากการถูกทอดทิ้งและมีพฤติกรรมเกเร จนกระทั่งเธอได้พบกับ ฮงจีฮง (รับบทโดย คิมแรวอน) ครูหนุ่มผู้เคยเป็นอดีตศัลยแพทย์ประสาท จีฮงเป็นคนแรกที่มองเห็นศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวฮเยจอง และพยายามช่วยดึงเธอออกจากวังวนของปัญหา เขาไม่เพียงแต่สอนหนังสือ แต่ยังสอนให้ฮเยจองได้เรียนรู้ที่จะเปิดใจ เปิดรับความรัก และค้นพบเส้นทางชีวิตที่แท้จริง
จากเด็กสาวที่มีกำแพงสูง ฮเยจองค่อยๆ ก้าวผ่านความยากลำบาก และในที่สุดก็สามารถเดินตามความฝันในการเป็นศัลยแพทย์ระบบประสาทได้อย่างที่ตั้งใจ และโชคชะตาก็เล่นตลกให้เธอได้กลับมาพบกับฮงจีฮงอีกครั้ง ในฐานะเพื่อนร่วมงานที่โรงพยาบาล!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
- นักแสดงหลัก: พัคชินฮเย, คิมแรวอน, ยุนคยุนซัง, อีซองคยอง, คิมยองแอ, จองแฮกยุน, จองจีฮุน
- ประเภท: โรแมนติก, การแพทย์, ดราม่า, ชีวิต
- จำนวนตอน: 20 ตอน
- กำหนดฉาย: 20 มิถุนายน 2016 – 23 สิงหาคม 2016
- ช่องทางรับชม: Viu, Netflix
8. Descendants of the Sun ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ
หากคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่ผสมผสานความโรแมนติกแอคชั่น ดราม่า และเรื่องราวทางการแพทย์ได้อย่างลงตัว “Descendants of the Sun ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ” คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง แต่เป็นการบอกเล่าถึงความเสียสละ อุดมการณ์ และการต่อสู้เพื่อปกป้องชีวิตท่ามกลางสถานการณ์คับขันที่ชวนให้หัวใจเต้นระรัว
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ยูชีจิน (รับบทโดย ซงจุงกิ) กัปตันหน่วยรบพิเศษสุดเท่ ได้บังเอิญพบกับ คังโมยอน (รับบทโดย ซงฮเยคโย) แพทย์หญิงสาวสวยผู้เก่งกาจในโรงพยาบาล ทั้งสองมีบุคลิกและเส้นทางชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ยูชีจินต้องเผชิญหน้ากับความตายอยู่เสมอเพื่อปกป้องประเทศชาติ ส่วนคังโมยอนทุ่มเทชีวิตเพื่อรักษาผู้ป่วยในห้องผ่าตัด ถึงแม้จะมีการเริ่มต้นที่ไม่ราบรื่น แต่พรหมลิขิตกลับนำพาให้ทั้งสองได้กลับมาพบกันอีกครั้งในประเทศอูรุค ดินแดนที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและภัยอันตราย
ณ ที่แห่งนี้เอง ความรักของทั้งคู่ก็เบ่งบานท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียด ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ ภารกิจทางการทหาร หรือโรคระบาดที่คุกคามชีวิตผู้คน ยูชีจินและคังโมยอนต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายมากมาย ทั้งการตัดสินใจที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต และการพิสูจน์ความรักที่แท้จริงในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความโรแมนติก แต่ยังสะท้อนถึงการเสียสละเพื่ออุดมการณ์ และการยึดมั่นในหน้าที่ของตนเอง

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.monomax.me/
- นักแสดงหลัก: ซงจุงกิ, ซงฮเยคโย, จินกู, คิมจีวอน
- ประเภท: โรแมนติก, แอคชั่น, ดราม่า, การแพทย์, ทหาร
- จำนวนตอน: 16 ตอน (ไม่รวมตอนพิเศษ)
- กำหนดฉาย: 24 กุมภาพันธ์ 2559 – 14 เมษายน 2559
- ช่องทางรับชม : Monomax
9. Hospital Ship เรือรัก เรือพยาบาล
ซีรีส์เกาหลีเรื่อง “Hospital Ship เรือรัก เรือพยาบาล” (ปี 2017) เป็นเรื่องราวอบอุ่นหัวใจที่พาผู้ชมออกเดินทางไปกับเหล่าแพทย์ผู้เสียสละบนเรือพยาบาลที่แล่นผ่านเกาะเล็กเกาะน้อย เพื่อมอบการรักษาพยาบาลให้กับผู้คนที่ห่างไกล ซึ่งเป็นภาพสะท้อนชีวิตจริงของบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างน่าประทับใจ
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ซงอึนแจ (รับบทโดย ฮาจีวอน) ศัลยแพทย์ผู้เก่งกาจและมีความสามารถสูง แต่กลับมีบุคลิกเย็นชาและไร้ซึ่งความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ตัดสินใจทิ้งชีวิตในโรงพยาบาลชั้นนำในเมืองหลวง มาทำงานเป็นศัลยแพทย์บนเรือพยาบาลแห่งนี้ ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางอย่างที่เก็บงำไว้ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้เธอได้พบกับ กวักฮยอน (รับบทโดย คังมินฮยอก) แพทย์หนุ่มจิตใจดี มีเมตตา และเปี่ยมไปด้วยความเห็นอกเห็นใจผู้ป่วย ซึ่งเป็นขั้วตรงข้ามกับเธอโดยสิ้นเชิง
จุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้คือการนำเสนอประเด็นการแพทย์ที่ไม่ซ้ำใคร ด้วยฉากหลังที่เป็น “เรือพยาบาล” ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับความท้าทายและข้อจำกัดในการรักษาพยาบาลบนเรือ ท่ามกลางท้องทะเลที่บางครั้งก็สงบ แต่บางครั้งก็เผชิญกับพายุและคลื่นลมแรง การต่อสู้กับเวลาและอุปสรรคต่างๆ เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เรื่องราวเข้มข้นและน่าติดตาม

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.viu.com/
- นักแสดงหลัก: ฮาจีวอน, คังมินฮยอก, อีซอวอน, ควอนมินอา, คิมอินซิก
- ประเภท: การแพทย์, โรแมนติก, ดราม่า
- จำนวนตอน: 40 ตอน (ออกอากาศตอนละ 30 นาที)
- กำหนดฉาย: 30 สิงหาคม 2560 – 2 พฤศจิกายน 2560
- ช่องทางรับชม: Viu
10. Life ค่าชีวิต
“Life ค่าชีวิต” ไม่ใช่ซีรีส์หมอทั่วไปที่เน้นฉากการผ่าตัดอลังการ แต่กลับชูประเด็นที่ซับซ้อนและชวนคิดอย่างมาก นั่นคือ “คุณค่าของชีวิต” ที่ถูกตีความและให้ความหมายต่างกันไปในแต่ละตัวละคร ซึงฮโยมองชีวิตเป็นต้นทุนที่ต้องจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่จินอูมองชีวิตเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้และต้องปกป้อง ตัวซีรีส์ถ่ายทอดความตึงเครียดของการต่อสู้เพื่อรักษาอุดมการณ์ในโลกที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์และอำนาจ
ฉากสำคัญที่น่าจดจำ คือการปะทะคารมระหว่างซึงฮโยและจินอู ที่เป็นเหมือนการประชันวิสัยทัศน์ที่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง การถกเถียงเรื่องการปิดแผนกฉุกเฉินที่ไม่ทำกำไร การจัดสรรทรัพยากร และการพยายามเปลี่ยนโรงพยาบาลให้เป็นองค์กรธุรกิจ ทำให้ผู้ชมตั้งคำถามว่า “อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในโรงพยาบาล?” และ “เราควรให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน ระหว่างกำไรหรือชีวิต?”
อีกจุดเด่นคือการนำเสนอตัวละครที่ไม่ใช่ขาวดำ ตัวละครทุกตัวมีมิติ มีเหตุผลในการกระทำที่แตกต่างกัน ทำให้เราได้เห็นมุมมองที่หลากหลายและเข้าใจความซับซ้อนของสถานการณ์ได้ดีขึ้น แม้แต่ซึงฮโยที่มีภาพลักษณ์เป็นคนร้ายกาจ แต่เบื้องหลังเขาก็มีความตั้งใจบางอย่างที่น่าค้นหา

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
- นักแสดงหลัก: โชซึงอู, อีดงอุค, วอนจินอา, ยูแจมยอง, มุนโซรี
- ประเภท: การแพทย์, ดราม่า, ธุรกิจ
- จำนวนตอน: 16 ตอน
- กำหนดฉาย: 23 กรกฎาคม 2561
- ช่องทางรับชม: Netflix
เอ้สรุปง่ายๆ เลยว่า ซีรีส์หมอ ไม่ใช่แค่แนวละครที่มาสร้างความบันเทิงให้เราเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนหน้าต่างที่เปิดให้เราได้เข้าไปสัมผัสโลกของการแพทย์อย่างใกล้ชิด ได้เห็นความทุ่มเท ความเสียสละ และความท้าทายที่บุคลากรทางการแพทย์ต้องเจอในแต่ละวัน มันทำให้เราเข้าใจและชื่นชมพวกเขามากยิ่งขึ้น แถมยังได้ข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับชีวิตและมนุษย์กลับไปอีกเพียบ รับรองว่าดูแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
เพราะฉะนั้น ถ้าใครกำลังมองหาซีรีส์ดีๆ สักเรื่องที่ครบเครื่องทั้งความบันเทิง สาระ และแรงบันดาลใจ ลองเปิดใจดู ซีรีส์หมอ สักเรื่องสิ แล้วคุณจะพบว่าเสน่ห์ของซีรีส์แนวนี้มันมีมากกว่าที่คุณคิดเยอะเลยล่ะ!