
สวัสดีค่ะทุกคนที่รักในการเข้าครัว! 👋 วันนี้เรามีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับส่วนผสมมหัศจรรย์ที่ขาดไม่ได้ในอาหารไทยอย่าง “กะทิ” มาฝากกันค่ะ ถ้าพูดถึงเสน่ห์ของอาหารไทย ไม่ว่าจะเป็นแกงเผ็ดร้อน ซุปหอมมัน หรือขนมหวานชื่นใจ “กะทิ” นี่แหละค่ะ คือหัวใจหลักที่ช่วยเพิ่มความกลมกล่อม นุ่มนวล และหอมอร่อยให้กับทุกเมนู
สำหรับใครที่ชอบทำอาหารทานเองง่ายๆ หรือกำลังมองหา “เมนูกะทิ” หลากหลายสำหรับทำทานในครอบครัว ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลแล้วค่ะ! วันนี้เราจัดมาให้แบบจุกๆ ถึง 10 เมนูกะทิ ที่รับรองว่าทำตามได้ไม่ยาก อร่อยถูกปากทั้งบ้านแน่นอน ที่สำคัญคือเราเน้นสูตรที่เข้าใจง่าย รายละเอียดครบครัน พร้อมจุดเด่นของแต่ละเมนูให้เลือกสรรกันตามความชอบเลยค่ะ
พร้อมแล้วหยิบผ้ากันเปื้อน แล้วไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่ามี “เมนูกะทิ” อะไรน่าลองทำบ้าง!
1. ต้มข่าไก่ (Tom Kha Gai)
ส่วนผสม:
- เนื้อไก่ (อก/สะโพก หั่นชิ้นพอดีคำ) 200 กรัม
- กะทิ 500 มล.
- ข่า (หั่นแว่น) 3-4 แว่น
- ตะไคร้ (หั่นท่อน ทุบพอแตก) 1 ต้น
- ใบมะกรูด (ฉีก) 3-4 ใบ
- เห็ดฟาง หรือเห็ดอื่นๆ ตามชอบ 100 กรัม
- น้ำปลา, น้ำมะนาว สำหรับปรุงรส
- พริกขี้หนูบุบ (ตามชอบ)
- ผักชีซอย สำหรับตกแต่ง
วิธีทำ:
- ตั้งหม้อ ใส่กะทิ (แบ่งไว้เล็กน้อยสำหรับราดหน้า) ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด รอจนกะทิเริ่มเดือด
- ใส่เนื้อไก่ ต้มจนไก่สุก
- ใส่เห็ด รอจนเห็ดสุก
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำมะนาว ชิมรสให้อร่อย (เปรี้ยว เค็ม หวานมัน)
- ใส่พริกขี้หนูบุบ (ถ้าชอบรสเผ็ด)
- ตักเสิร์ฟ ราดด้วยหัวกะทิที่แบ่งไว้ และโรยหน้าด้วยผักชี
จุดเด่น: รสชาติกลมกล่อม หอมสมุนไพร ซดน้ำคล่องคอ เป็น “เมนูกะทิ” ที่ทำง่ายและดีต่อสุขภาพ

2. พะแนงหมู (Panang Pork)
ส่วนผสม:
- เนื้อหมู (สันใน/สันนอก หั่นชิ้นบาง) 300 กรัม
- หัวกะทิ 250 มล.
- หางกะทิ 250 มล.
- น้ำพริกแกงพะแนง 50 กรัม (ปรับตามความชอบ)
- พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ, ใบมะกรูดซอยฝอย สำหรับตกแต่ง
- น้ำปลา, น้ำตาลปี๊บ สำหรับปรุงรส
วิธีทำ:
- ตั้งกระทะ ใช้ไฟกลาง ผัดน้ำพริกแกงพะแนงกับหัวกะทิเล็กน้อย จนหอม และแตกมันสวยงาม
- ใส่เนื้อหมู ผัดจนเนื้อหมูพอสุก
- ค่อยๆ ทยอยใส่หัวกะทิที่เหลือ ผัดไปเรื่อยๆ จนกะทิเดือด และเนื้อหมูสุกดี
- เติมหางกะทิ รอจนเดือดอีกครั้ง
- ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ ชิมรสให้อร่อยตามชอบ
- ตักใส่ชาม โรยหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ และใบมะกรูดซอยฝอย
จุดเด่น: รสชาติเข้มข้น หอมมัน ทำไม่ยาก เป็น “เมนูกะทิ” ที่นิยมทำทานเองที่บ้าน

3. ขนมจีนน้ำยากะทิ (Kanom Jeen Nam Ya Kati)
ส่วนผสม:
- เนื้อปลาต้ม (ปลาน้ำดอกไม้ ปลาทู หรือปลาอื่นๆ) 300 กรัม
- กะทิ 500 มล.
- พริกแกงน้ำยา (พริกแห้ง หอมแดง กระชาย กระเทียม โขลกกับเนื้อปลาต้ม) 100 กรัม (หรือน้ำพริกแกงสำเร็จรูป)
- ลูกชิ้นปลา (ตามชอบ)
- น้ำปลา, น้ำตาลปี๊บ สำหรับปรุงรส
- ตีนไก่ (ต้มเปื่อยแล้ว) ตามชอบ (ไม่ใส่ก็ได้)
- ขนมจีน และผักเครื่องเคียงต่างๆ
วิธีทำ:
- ถ้าทำพริกแกงเอง ให้นำพริกแห้งแช่น้ำ โขลกกับหอมแดง กระชาย กระเทียม ให้ละเอียด นำเนื้อปลาต้มมาโขลกรวมกัน
- ตั้งหม้อ ใส่หัวกะทิเล็กน้อย รอจนเดือด ใส่พริกแกง ผัดพอหอม
- ค่อยๆ เติมกะทิที่เหลือลงไปจนหมด คนให้เข้ากัน
- ใส่ลูกชิ้นปลา และตีนไก่ (ถ้าใส่)
- เคี่ยวไปเรื่อยๆ ด้วยไฟอ่อนๆ จนน้ำยาข้น และหอม
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ชิมรสให้อร่อย (เค็มนำ หอมกะทิ)
- ตักราดบนขนมจีน เสิร์ฟพร้อมผักเครื่องเคียง
จุดเด่น: เป็น “เมนูกะทิ” ยอดฮิต ทำทานง่าย อิ่มอร่อยครบเครื่อง

4. แกงกะหรี่ไก่ (Yellow Curry Chicken)
ส่วนผสม:
- นื้อไก่ (อก/สะโพก หั่นชิ้น) 300 กรัม
- กะทิ 500 มล.
- น้ำพริกแกงกะหรี่ 50 กรัม (หรือน้ำพริกแกงสำเร็จรูป)
- มันฝรั่ง (หั่นชิ้นใหญ่) 200 กรัม
- หอมใหญ่ (หั่นชิ้นใหญ่) ครึ่งหัว
- น้ำปลา, น้ำตาลปี๊บ สำหรับปรุงรส
- ผงกะหรี่เล็กน้อย (ถ้าชอบ)
วิธีทำ:
- ตั้งหม้อ ใช้ไฟกลาง ผัดน้ำพริกแกงกะหรี่กับหัวกะทิเล็กน้อย จนหอม
- ใส่เนื้อไก่ ผัดพอเข้ากัน
- ค่อยๆ เติมกะทิที่เหลือลงไปจนหมด รอจนเดือด
- ใส่มันฝรั่ง และหอมใหญ่ เคี่ยวต่อจนมันฝรั่งสุกนุ่ม
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ชิมรสให้อร่อย
- ถ้าชอบเพิ่มความหอม ใส่ผงกะหรี่เล็กน้อย คนให้เข้ากัน
- ตักเสิร์ฟ
จุดเด่น: รสชาติกลมกล่อม หอมผงกะหรี่ ทานง่าย ไม่เผ็ดมาก เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว

5. กล้วยบวชชี (Banana in Coconut Milk)
ส่วนผสม:
- กล้วยน้ำว้าห่ามๆ 1 หวี
- กะทิ 500 มล.
- น้ำตาลปี๊บ 100-150 กรัม (ปรับตามความชอบ)
- เกลือ เล็กน้อย (ปลายช้อนชา)
- ใบเตย (ถ้ามี) 1-2 ใบ
วิธีทำ:
- ปอกเปลือกกล้วย ผ่าครึ่งตามยาว หรือหั่นเป็นท่อนๆ ตามชอบ
- ตั้งหม้อ ใส่กะทิ ใช้ไฟกลาง รอจนกะทิเริ่มเดือดเบาๆ (ไม่ให้แตกมัน)
- ใส่น้ำตาลปี๊บ และเกลือ คนจนละลาย
- ใส่ใบเตย (ถ้ามี) เพิ่มความหอม
- ใส่กล้วยลงไป ต้มไปเรื่อยๆ จนกล้วยสุกนุ่ม และสีเข้มขึ้น
- ชิมรสหวานตามชอบ ปิดไฟ ตักเสิร์ฟ จะทานร้อนหรือเย็นก็ได้
จุดเด่น: ทำง่าย ใช้ส่วนผสมน้อย เป็น “เมนูกะทิ” ขนมหวานที่อร่อยถูกใจทุกวัย

6. ทับทิมกรอบ (Tub Tim Grob)
ส่วนผสม:
- แห้ว หรือมันแกว (หั่นเต๋าเล็ก) 200 กรัม
- สีผสมอาหารสีแดง
- แป้งมันสำปะหลัง สำหรับคลุก
- กะทิ 400 มล.
- น้ำตาลทราย 100-150 กรัม (ปรับตามความชอบ)
- เกลือ เล็กน้อย
- ขนุนซอย, มะพร้าวอ่อน (ตามชอบ)
- น้ำแข็ง
วิธีทำ:
- นำแห้วหรือมันแกวหั่นเต๋า ไปคลุกกับสีผสมอาหารสีแดงให้ทั่ว
- นำไปคลุกกับแป้งมันสำปะหลัง ให้แป้งเคลือบชิ้นแห้ว/มันแกวให้ทั่ว
- ร่อนแป้งส่วนเกินออก
- ตั้งหม้อน้ำเดือด นำทับทิมลงไปต้มจนสุกใส ลอยขึ้นมา
- ตักขึ้นแช่ในน้ำเย็นจัดทันที
- ทำน้ำกะทิ: ตั้งหม้อ ใส่กะทิ น้ำตาลทราย และเกลือ คนให้ละลาย พอเดือดเบาๆ ปิดไฟ พักให้เย็น
- ตักทับทิมกรอบใส่ถ้วย ใส่น้ำกะทิ เติมขนุนซอย มะพร้าวอ่อน (ถ้าใส่) และน้ำแข็ง พร้อมเสิร์ฟ
จุดเด่น: สีสันสวยงาม ทำง่าย สดชื่นคลายร้อน เป็น “เมนูกะทิ” ขนมหวานที่ทานได้ทุกฤดู

7. ข้าวเหนียวมะม่วง (Mango Sticky Rice)
ส่วนผสม:
- ข้าวเหนียวดิบ (เขี้ยวงู) 200 กรัม
- สำหรับข้าวเหนียวมูน: กะทิ 200 มล., น้ำตาลทราย 50-80 กรัม, เกลือ ปลายช้อนชา
- สำหรับน้ำกะทิราด: หัวกะทิ 50 มล., น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา, เกลือ เล็กน้อย
- มะม่วงสุก (พันธุ์หวานหอม เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงอกร่อง) 1 ลูก
- ถั่วทองทอดกรอบ สำหรับโรยหน้า
วิธีทำ:
- ซาวข้าวเหนียวให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง หรือข้ามคืน สะเด็ดน้ำ
- นำข้าวเหนียวไปนึ่งให้สุก (ประมาณ 20-30 นาที)
- ระหว่างรอข้าวเหนียวสุก ทำน้ำกะทิสำหรับมูน: ตั้งหม้อ ใส่กะทิ น้ำตาลทราย เกลือ คนให้ละลาย พอเดือดเบาๆ ปิดไฟ พักไว้
- เมื่อข้าวเหนียวสุก นำข้าวเหนียวร้อนๆ ใส่ลงในอ่างผสม เทน้ำกะทิสำหรับมูนลงไป คนให้เข้ากัน ปิดฝาพักไว้ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ข้าวเหนียวดูดซับน้ำกะทิ
- ทำน้ำกะทิราด: ตั้งหม้อใบเล็ก ใส่หัวกะทิ น้ำตาลทราย เกลือ คนให้ละลาย พอเดือดเบาๆ ปิดไฟ
- จัดเสิร์ฟ: ตักข้าวเหนียวมูนใส่จาน เคียงข้างด้วยมะม่วงสุก ปอกเปลือกหั่นชิ้น ราดด้วยน้ำกะทิราด และโรยด้วยถั่วทองทอดกรอบ
จุดเด่น: เป็น “เมนูกะทิ” ที่ดังไกลทั่วโลก รสชาติหวานมันหอมอร่อย ทำง่ายในช่วงที่มีมะม่วงสุก

8. บัวลอยสามสี (Three-Color Bua Loi)
ส่วนผสม:
- แป้งข้าวเหนียว 200 กรัม
- น้ำเปล่า หรือ น้ำสมุนไพรสีต่างๆ (น้ำใบเตย น้ำอัญชัน น้ำฟักทอง) สำหรับผสมแป้ง
- กะทิ 400 มล.
- น้ำตาลปี๊บ หรือ น้ำตาลทราย 100-150 กรัม (ปรับตามความชอบ)
- เกลือ เล็กน้อย
- มะพร้าวอ่อน, ไข่หวาน (ตามชอบ)
วิธีทำ:
- แบ่งแป้งข้าวเหนียวเป็นส่วนๆ ผสมกับน้ำเปล่า หรือน้ำสมุนไพรสีต่างๆ นวดจนแป้งเนียน ไม่ติดมือ ปั้นเป็นลูกกลมๆ เล็กๆ
- ตั้งหม้อน้ำเดือด นำลูกบัวลอยลงไปต้มจนสุก ลอยขึ้นมา
- ตักขึ้นแช่ในน้ำเย็นทันที พักไว้
- ทำน้ำกะทิ: ตั้งหม้อ ใส่กะทิ น้ำตาลปี๊บ/น้ำตาลทราย และเกลือ คนให้ละลาย พอเดือดเบาๆ ปิดไฟ
- ตักลูกบัวลอยที่แช่น้ำเย็นแล้วขึ้นใส่ถ้วย ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน (ถ้าใส่) ตักน้ำกะทิราด ถ้าชอบทานไข่หวาน ให้ต้มไข่หวานแยกแล้วนำมาใส่รวมกัน
จุดเด่น: สีสันสดใส ทำง่าย สนุกกับการปั้นลูกบัวลอย เป็น “เมนูกะทิ” ขนมหวานที่ถูกใจเด็กๆ และผู้ใหญ่

9. สาคูเปียกมะพร้าวอ่อน (Sago with Young Coconut)
ส่วนผสม:
- เม็ดสาคู (เม็ดเล็กหรือใหญ่) 100 กรัม
- น้ำเปล่า สำหรับต้มสาคู
- เนื้อมะพร้าวอ่อน (หั่นชิ้น) ตามชอบ
- สำหรับน้ำกะทิ: กะทิ 250 มล., น้ำตาลทราย 50-80 กรัม, เกลือ เล็กน้อย
วิธีทำ:
- ล้างเม็ดสาคูผ่านน้ำเร็วๆ (ไม่ต้องแช่นาน)
- ตั้งหม้อน้ำเปล่า ใช้ไฟกลางจนน้ำเดือด ใส่เม็ดสาคูลงไปต้ม คนเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้เม็ดสาคูติดก้นหม้อ
- ต้มจนเม็ดสาคูสุกใส ไม่มีเม็ดขาวตรงกลาง ปิดไฟ
- ทำน้ำกะทิ: ตั้งหม้อ ใส่กะทิ น้ำตาลทราย และเกลือ คนให้ละลาย พอเดือดเบาๆ ปิดไฟ
- ตักสาคูที่ต้มสุกแล้วใส่ถ้วย (ไม่ต้องล้างน้ำเย็น) ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน ตักน้ำกะทิราด พร้อมเสิร์ฟ
จุดเด่น: ทำง่าย เนื้อสัมผัสหนึบๆ เข้ากันได้ดีกับความหอมมันของกะทิและมะพร้าวอ่อน เป็น “เมนูกะทิ” ขนมหวานที่ทำไว ทานง่าย

10. ข้าวเหนียวดำเปียก (Black Sticky Rice in Coconut Milk)
ส่วนผสม:
- ข้าวเหนียวดำ 200 กรัม
- น้ำเปล่า สำหรับต้มข้าวเหนียวดำ
- น้ำตาลปี๊บ 100-150 กรัม (ปรับตามความชอบ)
- สำหรับน้ำกะทิราด: หัวกะทิ 150 มล., เกลือ เล็กน้อย (ประมาณครึ่งช้อนชา)
- เนื้อมะพร้าวอ่อน (ตามชอบ)
วิธีทำ:
- ซาวข้าวเหนียวดำให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง หรือข้ามคืน (จะช่วยให้ข้าวเหนียวดำเปื่อยง่ายขึ้น)
- นำข้าวเหนียวดำที่แช่น้ำแล้ว ใส่หม้อ เติมน้ำเปล่าให้ท่วม (ประมาณ 2-3 เท่าของปริมาณข้าว) นำไปต้มหรือหุงในหม้อหุงข้าว จนข้าวเหนียวดำเปื่อยนุ่มดี
- เมื่อข้าวเหนียวดำเปื่อยนุ่ม ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป คนให้ละลาย ชิมรสหวานตามชอบ เคี่ยวต่อเล็กน้อยจนน้ำตาลซึมเข้าเนื้อ
- ทำน้ำกะทิราด: ตั้งหม้อใบเล็ก ใส่หัวกะทิ และเกลือ คนให้เข้ากัน พอเดือดเบาๆ ปิดไฟ
- ตักข้าวเหนียวดำเปียกใส่ถ้วย ตักเนื้อมะพร้าวอ่อน (ถ้าใส่) ราดด้วยน้ำกะทิเค็มๆ มันๆ พร้อมเสิร์ฟ
จุดเด่น: ทำง่าย ได้รสสัมผัสและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ของข้าวเหนียวดำ ผสานความหวานเค็มมันของกะทิ

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 10 เมนูกะทิ ที่เราคัดสรรมาให้ในวันนี้? จะเห็นได้ว่า “กะทิ” เป็นมากกว่าแค่ส่วนผสม แต่เป็นเหมือนเวทมนตร์ที่เนรมิตอาหารไทยให้มีรสชาติกลมกล่อม หอมมัน และน่ารับประทานยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเมนูคาวอย่างแกงต่างๆ หรือเมนูหวานชื่นใจ กะทิก็ทำหน้าที่ของมันได้อย่างยอดเยี่ยมเสมอค่ะ
หวังว่าบล็อกนี้จะเป็นไอเดียและแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ ที่รักการทำอาหารได้ลองเข้าครัวลงมือทำ “เมนูกะทิ” เหล่านี้กันดูนะคะ รับรองว่าทำไม่ยากอย่างที่คิด และผลลัพธ์ที่ได้คือความอร่อยฟินที่ทำเองกับมือค่ะ
ถ้าได้ลองทำเมนูไหนแล้ว อย่าลืมมาแชร์ผลงานกันนะคะ! หรือถ้ามี “เมนูกะทิ” เมนูโปรดอื่นๆ ที่อยากแนะนำ ก็คอมเมนต์บอกกันได้เลยค่ะ เราจะได้มีไอเดียใหม่ๆ ไปลองทำกันอีก 😊
มีความสุขกับการทำอาหารนะคะ! แล้วเจอกันใหม่ในบล็อกหน้าค่ะ 😊❤️