10 อันดับ ซีรีส์วายแรง ๆ รวมทุกรสชาติ ฟินจิกหมอน

กำลังมองหา ซีรีส์วายแรง ๆ ที่จะทำให้คุณอินจนหยุดดูไม่ได้อยู่ใช่ไหม? ยุคนี้ซีรีส์วายไม่ได้มีแค่เรื่องราวใส ๆ ฟิน ๆ อย่างเดียวนะ แต่ยังมีพล็อตที่เข้มข้น ดราม่าจัดเต็ม หรือแม้แต่ฉากสุดเร่าร้อนที่ทำให้หลายคนถึงกับต้องซู้ดปาก วันนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกโลกของ ซีรีส์วายแรง ๆ ที่รับรองว่าตอบโจทย์ทุกอารมณ์ความรู้สึกของคุณแน่นอน

ถ้าคุณเป็นคอซีรีส์ที่ชอบความท้าทาย ไม่ชอบอะไรที่มาง่ายไปง่าย ซีรีส์วายแนวนี้แหละที่ใช่สำหรับคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความรักที่ต้องฟันฝ่าอุปสรรคนานัปการ หรือความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนชวนให้ลุ้นตามทุกวินาที ความสนุกของการได้ดู ซีรีส์วายแรง ๆ คือการที่คุณได้เห็นตัวละครเติบโต เผชิญหน้ากับปัญหา และเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน ซึ่งแน่นอนว่ามันจะทำให้คุณอินและรู้สึกร่วมไปกับตัวละครได้ไม่ยาก

เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเรากำลังจะพาคุณไปเปิดประสบการณ์ใหม่กับ ซีรีส์วายแรง ๆ ที่คัดมาแล้วว่าดี เด็ด และโดนใจ รับรองว่าดูจบแล้วคุณจะต้องอยากวนกลับมาดูซ้ำอีกหลายรอบแน่นอน ใครที่กำลังหาซีรีส์เติมเต็มความตื่นเต้นและรสชาติชีวิต ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด!


1. คินน์พอร์ช เดอะซีรีส์ ลา ฟอร์เต้

“คินน์พอร์ช เดอะซีรีส์ ลา ฟอร์เต้” (KinnPorsche The Series La Forte) ไม่ใช่แค่ซีรีส์วายธรรมดา แต่คือปรากฏการณ์ที่เขย่าวงการซีรีส์ไทย ด้วยการนำเสนอความรักที่ร้อนแรง ผสมผสานกับการหักเหลี่ยมเฉือนคมในโลกมาเฟียได้อย่างลงตัว ชวนให้ผู้ชมลุ้นระทึกไปกับทุกย่างก้าวของตัวละคร

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ พอร์ช (รับบทโดย มาย ภาคภูมิ ร่มไทรทอง) บาร์เทนเดอร์หนุ่มสุดเท่ ผู้มีความสามารถด้านศิลปะการต่อสู้ ต้องจับพลัดจับผลูเข้ามาพัวพันกับ คินน์ (รับบทโดย อาโป ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์) ทายาทมาเฟียตระกูลหลักที่กำลังถูกปองร้าย จากสถานการณ์ที่ต้องเอาชีวิตรอด พอร์ชได้กลายมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของคินน์ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่คาดไม่ถึง

จุดเด่นที่ทำให้ “คินน์พอร์ช” ไม่เหมือนใคร คือการฉีกกฎซีรีส์วายแบบเดิมๆ ด้วยการนำเสนอความดุดันของโลกมาเฟียได้อย่างสมจริง ฉากแอคชั่นที่ดุเดือด สมจริง และฉากต่อสู้ที่ออกแบบมาอย่างดีเยี่ยม ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในสถานการณ์จริง นอกจากนี้ การเล่าเรื่องยังมีความซับซ้อน ตัวละครมีมิติ มีเบื้องหลังที่น่าค้นหา ทำให้เราค่อยๆ ทำความเข้าใจกับแรงจูงใจและการกระทำของพวกเขา

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.iq.com/
  • นักแสดงหลัก:
  • มาย ภาคภูมิ ร่มไทรทอง (รับบท คินน์), อาโป ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ (รับบท พอร์ช), ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส สุเมตติกุล (รับบท เวกัส), เจฟ ซาเตอร์ (รับบท คิม), บาส อัศวภัทร์ ผลิตผลแพร (รับบท ปอร์เช่), ต๋อง ธนายุทธ โอภาสสิริวิทย์ (รับบท ท็อป), จ๊อบ กิตติชัย แก้วทอง (รับบท แทนคุณ)
  • ประเภท: แอ็คชั่น, ดราม่า, โรแมนติก, วาย
  • จำนวนตอน: 14 ตอน
  • กำหนดฉาย: เริ่มฉายวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2565
  • ช่องทางรับชม: iQIYI (สำหรับเวอร์ชัน Uncut)

2. Pit Babeพิษเบ๊บ

“Pit Babe พิษเบ๊บ” คือซีรีส์วายที่ไม่ได้มีแค่ความรักหวานซึ้ง แต่มาพร้อมกับพล็อตเรื่องสุดเข้มข้น แรง และเต็มไปด้วยปริศนาที่จะทำให้คุณติดหนึบตั้งแต่ต้นจนจบ เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในโลกของ การแข่งรถใต้ดิน ที่เต็มไปด้วยความเร็ว ดุดัน และอันตรายถึงชีวิต ซึ่งเป็นฉากหลังที่สมบูรณ์แบบสำหรับความสัมพันธ์อันซับซ้อนของตัวละครหลักของเรา

ซีรีส์เรื่องนี้โดดเด่นด้วยการผสมผสานความโรแมนติกเข้ากับฉากแอคชั่นสุดระทึกในโลกของการแข่งรถได้อย่างลงตัว ตัวละครแต่ละตัวมีมิติ มีปมในใจที่ต้องคลี่คลาย และความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้ “แรง” อย่างแท้จริงคือการนำเสนอประเด็นความรักที่ซับซ้อน ความแค้นที่ฝังลึก และการหักหลังที่คาดไม่ถึง ทำให้ผู้ชมต้องลุ้นระทึกไปกับทุก ๆ เหตุการณ์

หัวใจของ “Pit Babe พิษเบ๊บ” อยู่ที่ตัวละคร “เบ๊บ” นักแข่งรถดาวรุ่งที่เหมือนจะสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง แต่กลับมีความลับและบาดแผลในอดีตที่ฝังลึก เขาเป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูด แต่ก็เย็นชาและไม่ไว้ใจใครง่าย ๆ จนกระทั่ง “ชาลี” ชายหนุ่มผู้ลึกลับที่ดูเหมือนจะก้าวเข้ามาในชีวิตเขาด้วยความบังเอิญ แต่เบื้องหลังกลับมีแผนการบางอย่างซ่อนอยู่ การพบกันของทั้งสองคนจุดประกายความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความดึงดูด ความสงสัย และอันตราย เมื่อยิ่งใกล้ชิด ความลับของแต่ละฝ่ายก็ยิ่งค่อย ๆ เผยออกมา และพาพวกเขาเข้าไปพัวพันกับอันตรายที่ไม่คาดคิด

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.iq.com/
  • นักแสดงหลัก: พาเวล นเรศ ครูผ่อง,พูห์ กฤตภัค อุดมพันธ์,สายลับ เหมวิช,ศุภณัฐ เลาหะพานิช,ภณ ธนภณ เอี่ยมกำชัย
  • ประเภท: โรแมนติก, ดราม่า, แอคชั่น, วาย, แข่งรถ
  • จำนวนตอน: 12 ตอน
  • กำหนดฉาย: เริ่มออกอากาศเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566
  • ช่องทางรับชม: iQIYI

3. I Feel You Linger in the Air Uncut (2023) หอมกลิ่นความรัก

“หอมกลิ่นความรัก” (I Feel You Linger In The Air) เป็นซีรีส์วายแนวพีเรียดโรแมนติกแฟนตาซีที่สร้างจากนิยายชื่อดังของ VIOLET RAIN บอกเล่าเรื่องราวความรักอันซับซ้อนและลึกซึ้งที่ข้ามผ่านกาลเวลา ชวนให้ผู้ชมดำดิ่งไปกับการผจญภัยในอดีตเพื่อค้นหาคำตอบของโชคชะตาที่ผูกพันกันมาแต่ปางก่อน

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ “จอม” สถาปนิกหนุ่มผู้ออกแบบเรือนโบราณหลังหนึ่ง ประสบอุบัติเหตุตกลงไปในน้ำจนสลบไป และเมื่อฟื้นขึ้นมา เขากลับพบว่าตัวเองได้ย้อนเวลากลับมาอยู่ในช่วงต้นรัตนโกสินทร์! จอมตื่นขึ้นมาในบ้านของ “คุณใหญ่” ชายหนุ่มผู้สง่างามและมีเสน่ห์ลึกลับ การพบกันครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นโชคชะตาที่นำพาพวกเขามาบรรจบกัน

จุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้คือการผสมผสานระหว่างความรักโรแมนติกเข้ากับการไขปริศนาเหนือธรรมชาติได้อย่างลงตัว จอมต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตในอดีต ในขณะเดียวกันก็พยายามค้นหาคำตอบว่าทำไมเขาถึงได้ย้อนเวลากลับมาที่นี่ และความฝันประหลาดเกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งที่มักจะปรากฏขึ้นในความฝันของเขาคืออะไร

ขอขอบคุณรูปภาพจาก :https://www.iq.com/
  • นักแสดงหลัก: นนกุล ชานน สันตินธรกุล, ไบร์ท รพีพงศ์ ทับสุวรรณ
  • ประเภท: พีเรียด, โรแมนติก, ดราม่า, ย้อนยุค, วาย (BL)
  • จำนวนตอน: 12 ตอน (ยังไม่รวมตอนพิเศษ ถ้ามี)
  • กำหนดฉาย: เริ่มฉาย 18 สิงหาคม 2566
  • ช่องทางรับชม: iQIYI

4. Young Royals เจ้าชาย

ถ้าคุณกำลังมองหาซีรีส์วายที่ไม่ได้มีแค่ความรักหวานชื่น แต่เต็มไปด้วยปมขัดแย้งภายใน การต่อสู้กับขนบธรรมเนียม และการเติบโตที่เจ็บปวด “Young Royals” คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด! ซีรีส์สัญชาติสวีเดนเรื่องนี้พาเราดำดิ่งสู่โลกของชนชั้นสูงผ่านสายตาของเจ้าชายวิลเฮล์ม ตัวละครที่เราจะหลงรักและเอาใจช่วยไปพร้อมๆ กัน

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ เจ้าชายวิลเฮล์ม ทายาทอันดับสองของราชวงศ์สวีเดน ถูกส่งตัวไปยังโรงเรียนประจำอีลิท “ฮิลเลอร์สกา” (Hillerska) หลังจากที่เขาก่อเรื่องอื้อฉาวในที่สาธารณะ ที่นี่ไม่ใช่แค่โรงเรียน แต่คือโลกใบใหม่ที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบที่เข้มงวด มิตรภาพ และความกดดันจากสถานะของตนเอง

ในขณะที่พยายามปรับตัวและหลีกหนีจากสายตาผู้คน วิลเฮล์มก็ได้พบกับ ไซม่อน นักเรียนทุนผู้มีความฝันและพรสวรรค์ทางดนตรี ผู้ซึ่งแตกต่างจากคนในแวดวงชนชั้นสูงที่เขาคุ้นเคยอย่างสิ้นเชิง ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนร่วมชั้นค่อยๆ พัฒนาไปสู่ความรู้สึกที่ลึกซึ้งเกินกว่าคำว่ามิตรภาพ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายในใจของเจ้าชาย

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก: Edvin Ryding, Omar Rudberg, Malte Gårdinger, Frida Argento, Nikita Uggla
  • ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก, วัยรุ่น, LGBTQ+, ราชวงศ์
  • จำนวนตอน:
  • ซีซัน 1: 6 ตอน
  • ซีซัน 2: 6 ตอน
  • ซีซัน 3: 6 ตอน (รวมตอนพิเศษสุดท้าย)
  • กำหนดฉาย:
  • ซีซัน 1: 1 กรกฎาคม 2021
  • ซีซัน 2: 1 พฤศจิกายน 2022
  • ซีซัน 3: 11 มีนาคม 2024 (พาร์ท 1), 18 มีนาคม 2024 (พาร์ท 2)
  • ช่องทางรับชม: Netflix

5. แปลรักฉันด้วยใจเธอ

“แปลรักฉันด้วยใจเธอ” หรือ “I Told Sunset About You” คือซีรีส์วายที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่กระแส แต่คือปรากฏการณ์ที่สร้างความประทับใจและเปลี่ยนแปลงมาตรฐานซีรีส์วายไทยไปตลอดกาล ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวความรักอันซับซ้อนและลึกซึ้งของ เต๋และโอ้เอ๋ว สองเพื่อนสนิทที่ความรู้สึกอันหลากหลายได้แปรเปลี่ยนความสัมพันธ์ของพวกเขาไปตลอดกาล

ซีรีส์เรื่องนี้โดดเด่นด้วยการถ่ายทอด อารมณ์ความรู้สึกอันละเอียดอ่อน ของตัวละครได้อย่างลึกซึ้งและสมจริง การแสดงที่เข้าถึงบทบาทของนักแสดงหลักทำให้ผู้ชมรู้สึกอินไปกับความสับสน ความหวั่นไหว และความปรารถนาของเต๋และโอ้เอ๋ว ซีรีส์ไม่ได้เน้นแค่ฉากรักโรแมนติกเพียงอย่างเดียว แต่เจาะลึกถึงการค้นหาตัวตน การยอมรับความรู้สึกที่แตกต่าง และการต่อสู้กับความคาดหวังของสังคม ทำให้เรื่องราวมีความสมจริงและเข้าถึงใจผู้ชมในวงกว้าง ไม่ใช่แค่เฉพาะกลุ่มแฟนซีรีส์วายเท่านั้น

ฉากสำคัญที่ตราตรึงใจ มีอยู่มากมายในเรื่องราวนี้ ตั้งแต่ฉากที่เต๋และโอ้เอ๋วเรียนภาษาจีนด้วยกันที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้น การใช้ภาษาจีนเป็นสื่อกลางในการสื่อสารความในใจที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ตรงๆ เป็นกิมมิคที่ชาญฉลาดและสวยงาม หรือจะเป็นฉากใต้น้ำที่เปรียบเสมือนการดำดิ่งลงไปสำรวจความรู้สึกที่ซ่อนเร้นในใจของตัวละคร ไปจนถึงฉากที่ภูเก็ตที่เต็มไปด้วยความงามของธรรมชาติที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการบอกเล่าความรู้สึกของตัวละครได้อย่างลงตัว ซีรีส์ยังใช้ สัญลักษณ์และภาพเปรียบเทียบ ต่างๆ ได้อย่างมีชั้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นดอกชบา, มะพร้าว, สีของพระอาทิตย์ยามอัสดง หรือท้องฟ้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้เสริมให้เรื่องราวมีความหมายลึกซึ้งยิ่งขึ้น

“แปลรักฉันด้วยใจเธอ” ไม่ได้เป็นเพียงซีรีส์วาย แต่เป็นงานศิลปะที่ผสมผสานทั้งบทภาพยนตร์ที่แข็งแกร่ง การกำกับที่ประณีต และการแสดงที่ทรงพลัง ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับความรักในมิติที่หลากหลาย ความเจ็บปวด ความสุข และการเติบโตของจิตใจ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้กลายเป็นตำนานบทหนึ่งของวงการซีรีส์ไทยที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของใครหลายๆ คน

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก: บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล, พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร
  • ประเภท: โรแมนติก, ดราม่า, วัยรุ่น, LGBTQ+
  • จำนวนตอน: 5 ตอน (ซีซัน 1) และ 5 ตอน (ซีซัน 2: “Bokura ga Ita” หรือ “I Promised You the Moon”)
  • กำหนดฉาย:
  • ซีซัน 1: 22 ตุลาคม พ.ศ. 2563
  • ซีซัน 2: 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
  • ช่องทางรับชม: Netflix

6. Love Mechanics กลรักรุ่นพี่

“Love Mechanics กลรักรุ่นพี่” ไม่ใช่แค่ซีรีส์วายธรรมดา แต่เป็นมหากาพย์แห่งความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและเร่าร้อน ที่จะพาคุณดำดิ่งไปในห้วงอารมณ์ของความรัก ความเจ็บปวด และการเรียนรู้ที่จะเติบโตไปพร้อมกับตัวละคร

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ มาร์ค นักศึกษาวิศวะปีหนึ่งสุดสดใส ต้องเผชิญหน้ากับความผิดหวังเมื่อคนที่เขาแอบชอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ ในค่ำคืนที่ใจสลาย มาร์คได้พบกับ วี รุ่นพี่วิศวะปีสามผู้เงียบขรึมและมีโลกส่วนตัวสูง วีเองก็กำลังเผชิญหน้ากับความสัมพันธ์ที่คลุมเครือกับแฟนสาวมานานหลายปี ความบังเอิญในค่ำคืนนั้นนำพาทั้งสองมาอยู่ด้วยกัน และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความสับสนและความปรารถนา

จุดเด่นของเรื่องนี้คือการนำเสนอความสัมพันธ์ที่ “เทา” ไม่ใช่ขาวหรือดำอย่างชัดเจน วีมีแฟนอยู่แล้ว แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อมาร์คกลับค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ การที่วีสับสนในความรู้สึกตัวเองทำให้มาร์คต้องเจอกับความเจ็บปวดซ้ำๆ แต่ด้วยความรักที่ลึกซึ้ง มาร์คก็พร้อมที่จะรอและหวังว่าสักวันวีจะเลือกเขา เรื่องราวไม่ได้เน้นแค่ความรักโรแมนติก แต่ยังฉายภาพความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของผู้ใหญ่ที่ต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง การตัดสินใจ และผลกระทบของการกระทำของตัวเอง

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.iq.com/
  • นักแสดงหลัก: หยิ่น อานันท์ หว่อง, วอร์ วนรัตน์ รัศมีรัตน์, พร้อม ราชภัทร วรสาร, บอนซ์ ณดล นพรัตน์, โอห์ม ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ
  • ประเภท: โรแมนติก, ดราม่า, วัยรุ่น
  • จำนวนตอน: 10 ตอน
  • กำหนดฉาย (ออกอากาศครั้งแรก): 18 มิถุนายน 2565
  • ช่องทางรับชม : Wetv,IqIYi

7. Tonhon Chonlatee ต้นหนชลธี

คุณเคยสงสัยไหมว่า มิตรภาพที่ยาวนานตั้งแต่เด็ก จะสามารถแปรเปลี่ยนเป็นความรักที่ลึกซึ้งได้หรือไม่? “Tonhon Chonlatee ต้นหนชลธี” คือซีรีส์วายที่มาพร้อมกับคำตอบ และจะพาคุณดำดิ่งไปในเรื่องราวความสัมพันธ์อันละเอียดอ่อนของ “ต้นหน” และ “ชลธี” สองหนุ่มที่ผูกพันกันมาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งวันหนึ่ง ความรู้สึกเหล่านั้นได้ก่อตัวขึ้นเกินกว่าคำว่าพี่น้อง

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ “ชลธี” เด็กหนุ่มแสนสดใส ที่แอบหลงรัก “ต้นหน” รุ่นพี่ข้างบ้านมาตั้งแต่เด็ก ได้ตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ เพื่อมาเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับต้นหน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่เคยเป็นเหมือนพี่ชายน้องชาย ก็ค่อยๆ พัฒนาไปในทิศทางที่ซับซ้อนมากขึ้น ชลธีผู้เก็บซ่อนความรู้สึกมาตลอด กลับต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่า ต้นหนมีแฟนสาวอยู่แล้ว และพยายามจะตัดใจ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อต้นหนต้องเจอปัญหาความรัก และชลธีคือคนที่อยู่เคียงข้างเสมอ

จุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้คือการเล่าเรื่องที่ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ทำให้เราได้เห็นพัฒนาการของความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนผ่านจากความผูกพันแบบครอบครัวไปสู่ความรักโรแมนติกอย่างเป็นธรรมชาติ ซีรีส์จะพาคุณไปสำรวจความรู้สึกของตัวละครที่เต็มไปด้วยความสับสน ความสุข ความเจ็บปวด และการเรียนรู้ที่จะยอมรับในความรู้สึกของตัวเอง

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://wetv.vip/th/play
  • นักแสดงหลัก: ศุภกร ศรีโพธิ์ทอง, ข้าวตัง ธนวัฒน์ รัตนกิจไพศาล, ไมค์ ชินรัฐ สิริพงษ์ชวลิต, โต๋ ทิฆัมพร ผลโภค, เอเจ ชยพล จุฑามาศ, เจเจ ชยกร จุฑามาศ
  • ประเภท: โรแมนติก, คอมเมดี้, ดราม่า, วัยรุ่น
  • จำนวนตอน: 10 ตอน
  • กำหนดฉาย: 13 พฤศจิกายน 2563
  • ช่องทางรับชม: GMM25, WeTV (รับชมย้อนหลัง)

8. YOU MAKE ME DANCE

เคยไหมที่รู้สึกว่าชีวิตเหมือนการเต้นรำ? บางครั้งก็พลิ้วไหว บางครั้งก็หยุดนิ่ง แต่ไม่ว่าจะอย่างไรจังหวะชีวิตก็ยังคงดำเนินต่อไป “YOU MAKE ME DANCE” ซีรีส์วายที่ไม่ได้มีดีแค่เรื่องราวความรักโรแมนติก แต่ยังเต็มไปด้วยความฝัน ความเจ็บปวด และการก้าวผ่านอุปสรรคของสองหนุ่มที่โคจรมาพบกันด้วยพรหมลิขิตแห่งปลายเท้า

ซีรีส์เรื่องนี้จะพาเราดำดิ่งไปในโลกของ ซงชีอน นักเรียนเอกการเต้นร่วสมัยผู้เปี่ยมพรสวรรค์ แต่กลับแบกรับภาระหนี้สินมหาศาลที่แม่ทิ้งไว้ให้ เขาต้องดิ้นรนหารายได้เพื่อประคับประคองชีวิตที่แสนยากลำบาก ทว่าความสามารถของเขาก็เป็นที่จับตาของ จินฮงซอก นายทุนเงินกู้เลือดเย็นที่มาทวงหนี้พร้อมยื่นข้อเสนอที่เปลี่ยนชีวิตชีอนไปตลอดกาล นั่นคือการให้ชีอนมาอาศัยอยู่กับเขาในฐานะ “ลูกหนี้” ที่ต้องทำตามคำสั่ง!

ดูเหมือนจะเป็นความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากความจำเป็น แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความใกล้ชิดกลับก่อให้เกิดความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะปฏิเสธ ชีอนที่ในตอนแรกมองฮงซอกเป็นเพียงคนทวงหนี้ที่น่ารำคาญ เริ่มเห็นมุมที่อ่อนโยนและใส่ใจของเขา ส่วนฮงซอกเองก็เริ่มเปิดใจให้กับความบริสุทธิ์และความมุ่งมั่นของชีอน การเต้นรำที่เคยเป็นเพียงหนทางหนีปัญหาของชีอน กลับกลายมาเป็นสื่อกลางที่เชื่อมโยงความรู้สึกของคนทั้งสองเข้าหากันอย่างไม่น่าเชื่อ

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.iq.com/
  • นักแสดงหลัก: ชู ยอง-อู, ซง ชี-อน, อี ชาน-จอง, ยู ซอง-ยง
  • ประเภท: โรแมนติก, ดราม่า, วาย, เต้นรำ
  • จำนวนตอน: 8 ตอน
  • กำหนดฉาย: 26 กุมภาพันธ์ 2564
  • ช่องทางรับชม: Viki, iQIYI

9. นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ Cutie Pie

เรื่องราวเริ่มต้นจากความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนจะถูกกำหนดมาตั้งแต่เด็ก เมื่อ กิเลน (เหลียน) หนุ่มหล่อมาดนิ่ง ทายาทตระกูลดัง และ คนิ้ง (เกื้อ) หนุ่มน้อยน่ารัก ดีกรีนักศึกษาอักษรศาสตร์ ถูกจับคู่หมั้นหมายกันตั้งแต่ยังเยาว์วัย ด้วยความเชื่อที่ว่าทั้งสองจะนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ตระกูล แต่ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์นี้จะไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด

จุดเด่นสำคัญของเรื่องคือความพยายามของเกื้อที่ต้องการเป็นที่รักและเป็นคนที่คู่ควรกับเหลียน เกื้อเข้าใจมาตลอดว่าเหลียนไม่ชอบคนอ่อนหวาน จึงพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดูเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งและไม่เหมือนใคร โดยหวังว่าจะทำให้เหลียนหันมาสนใจและรักตนเอง แต่เบื้องหลังความพยายามนั้นกลับซ่อนความน้อยใจและความไม่มั่นใจในตัวเองไว้ลึกๆ

ฉากสำคัญที่ตราตรึงใจและสะท้อนใจความของเรื่องได้อย่างดีคือ ฉากที่เหลียนพยายามทำความเข้าใจเกื้อ และพยายามบอกให้เกื้อรู้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร เพราะเหลียนรักในสิ่งที่เกื้อเป็นอยู่แล้ว ความเข้าใจผิดและกำแพงที่เกื้อสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเองนั้นค่อยๆ พังทลายลงด้วยความรักและความอดทนของเหลียน

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://wetv.vip/th/play
  • นักแสดงหลัก: ซี พฤกษ์ พานิช, นุนิว ชวรินทร์ เพริศพิริยะ, แม้ก กรธัสส์ รุจิรัตนวรพันธุ์, ณฐ ณฐสิชณ์ เอื้อเอกสิชฌ์, ติวเตอร์ กรภัทร์ ลำน้อย, ยิม ปริญญากรณ์ ขันสวะ
  • ประเภท: โรแมนติก, ดราม่า, คอมเมดี้, Yaoi (Boys’ Love)
  • จำนวนตอน: 12 ตอน
  • กำหนดฉาย: เริ่มฉาย 19 กุมภาพันธ์ 2565
  • ช่องทางรับชม: ช่อง One 31, WeTV

10. แค่เพื่อนครับเพื่อน

“แค่เพื่อนครับเพื่อน” หรือ “Bad Buddy Series” คือซีรีส์วายที่ไม่ได้มีดีแค่ความฟิน แต่ยังเป็นตัวแทนของความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและเรื่องราวที่เต็มไปด้วยสีสัน บอกเล่าเรื่องราวของ “ภัทร” และ “ปราณ” ที่โชคชะตากำหนดให้เป็นคู่ปรับกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ด้วยความที่ครอบครัวของทั้งคู่ทำธุรกิจแข่งกัน ทำให้ภัทรและปราณถูกปลูกฝังให้เป็นศัตรูมาตั้งแต่เด็ก แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้ความขัดแย้งที่ดูเหมือนไม่มีวันจบสิ้นนั้น กลับมีมิตรภาพและความรู้สึกดีๆ ที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ

เรื่องราวเริ่มต้นด้วยความปั่นป่วนวุ่นวาย เมื่อภัทร (วิศวะ) และปราณ (สถาปัตย์) เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน และแน่นอนว่าความบาดหมางระหว่างคณะวิศวะกับคณะสถาปัตย์นั้นก็ร้อนแรงไม่แพ้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เลยทีเดียว จุดเด่นของเรื่องคือการนำเสนอความสัมพันธ์แบบ “ศัตรูคู่รัก” ที่ค่อยๆ พัฒนาไปอย่างเป็นธรรมชาติ จากคู่ปรับที่ต้องคอยเอาชนะกัน กลายเป็นคนที่เข้าใจกันมากที่สุด ฉากสำคัญที่ทำให้คนดูใจเต้นไม่เป็นจังหวะคือช่วงที่ทั้งคู่เริ่มปรับความเข้าใจกันอย่างจริงจัง ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ที่ทำให้พวกเขาได้ใกล้ชิดและเปิดใจให้กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฉากที่ปราณช่วยภัทรจากเรื่องวุ่นๆ หรือฉากที่ทั้งคู่ต้องแกล้งเป็นแฟนกันเพื่อแก้ปัญหาบางอย่าง ซึ่งในที่สุดความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ก็เริ่มชัดเจนขึ้นจนยากจะปฏิเสธได้

ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ฉากโรแมนติกชวนฟิน แต่ยังสอดแทรกประเด็นเรื่องการยอมรับความหลากหลายทางเพศ การเปิดใจให้กับความแตกต่าง และการก้าวข้ามอคติในสังคมได้อย่างน่าสนใจ ด้วยบทที่เขียนมาอย่างลงตัว เคมีของนักแสดงที่เข้ากันสุดๆ และมุกตลกที่สอดแทรกมาอย่างถูกจังหวะ ทำให้ “แค่เพื่อนครับเพื่อน” กลายเป็นซีรีส์ที่ครบเครื่อง ทั้งความสนุก ความซึ้ง และข้อคิดดีๆ ที่สามารถเข้าถึงใจคนดูได้ทุกเพศทุกวัย

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.gmm-tv.com/home
  • นักแสดงหลัก: โอม ภวัต จิตต์สว่างดี, นนน กรภัทร์ เกิดพันธุ์, เลิฟ ภัทรานิษฐ์ ลิ้มปติยากร, ฟิล์ม รชานันท์ มหาวรรณ์, มาร์ค ปาหุณ จิยะเจริญ, หลุยส์ ธณวิน ธีรโพสุการ, เดรก สัตบุตร แลดิกี, จิมมี่ จิตรพล โพธิวิหค, ฟอส จิรัชพงศ์ ศรีแสง, มิกซ์ สหภาพ วงศ์ราษฎร์ (นักแสดงรับเชิญ)
  • ประเภท: โรแมนติก, คอมเมดี้, วัยรุ่น, ดราม่า, บอยเลิฟ
  • จำนวนตอน: 12 ตอน
  • กำหนดฉาย: 29 ตุลาคม พ.ศ. 2564
  • ช่องทางรับชม: GMM25, YouTube GMMTV

เป็นยังไงกันบ้างกับซีรีส์วายแรง ๆ ที่เรานำมาแนะนำ หวังว่าคงจะมีเรื่องที่ถูกใจและทำให้คุณได้เปิดประสบการณ์การดูซีรีส์ที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความรักที่ลึกซึ้ง ดราม่าที่เชือดเฉือน หรือฉากที่เร่าร้อน ซีรีส์วายเหล่านี้ได้พิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่ยังสะท้อนแง่มุมของชีวิตและความสัมพันธ์ที่หลากหลายได้อย่างน่าสนใจ

ไม่ว่าคุณจะเคยดูซีรีส์วายแนวนี้มาก่อนหรือไม่ ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณกล้าที่จะเปิดใจลองชม ซีรีส์วายแรง ๆ และค้นพบเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ในเรื่องราวเหล่านี้ แล้วคุณจะรู้ว่าซีรีส์วายมีอะไรมากกว่าที่คุณคิดเยอะเลยล่ะ!


แชร์บทความนี้