10 อันดับ ซีรี่ย์เกาหลี พากย์ไทย ที่ครองใจคนดูตลอดกาล

สำหรับคอซีรีส์เกาหลีตัวจริง บอกเลยว่ายุคนี้ดูซีรีส์ฟินกว่าเดิมเยอะ! เพราะไม่ต้องมานั่งเมื่อยคอยอ่านซับไตเติลให้เสียอารมณ์อีกต่อไปแล้ว แค่กดดู ซีรี่ย์เกาหลี พากย์ไทย ก็สามารถเข้าถึงเรื่องราวที่เข้มข้น ดราม่า โรแมนติก หรือตลกโปกฮาได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญคือเรายังได้ฟังเสียงพากย์คุณภาพที่ช่วยถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้ถึงใจ ทำให้การติดตามเนื้อเรื่องทำได้แบบต่อเนื่องไม่มีสะดุดเลยล่ะค่ะ

หลายคนอาจจะติดภาพว่าการพากย์เสียงจะทำให้ความรู้สึกของซีรีส์เกาหลีหายไป แต่บอกเลยว่าวงการพากย์ไทยพัฒนาไปไกลมากแล้วค่ะ ทีมพากย์มืออาชีพได้พิถีพิถันในการเลือกโทนเสียงและน้ำเสียงให้เข้ากับคาแรกเตอร์ของตัวละครแต่ละตัวได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นพระเอกหล่อเท่ นางเอกน่ารัก หรือตัวร้ายที่น่าหมั่นไส้ ทำให้ประสบการณ์การดู ซีรี่ย์เกาหลี พากย์ไทย ของคุณยังคงเต็มอิ่มและสนุกไม่แพ้ต้นฉบับเลยค่ะ

การดู ซีรี่ย์เกาหลี พากย์ไทย ไม่ได้มีแค่เรื่องของความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนที่อยากจะชวนครอบครัวหรือเพื่อนๆ ที่ไม่สันทัดภาษาเกาหลีให้มาดูซีรีส์ด้วยกันได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือน้องๆ ที่ไม่ชอบอ่านซับก็สามารถเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวสุดประทับใจได้อย่างไร้ข้อจำกัดจริงๆ ถือเป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนดูยุคใหม่ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ


1. ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ

“Goblin ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ” เป็นซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกแฟนตาซีที่ผสมผสานความรัก ความเศร้า และอารมณ์ขันได้อย่างลงตัว เรื่องราวเล่าถึง คิมชิน ขุนพลผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตที่ถูกดาบอาคมสาปให้เป็น ก็อบลิน ผู้มีชีวิตอมตะมานานนับพันปี เขาเฝ้ารอคอยเจ้าสาวที่จะสามารถมองเห็นดาบและดึงมันออกได้ เพื่อปลดปล่อยเขาจากคำสาปและได้พักผ่อนอย่างสงบสุข

เรื่องราวความรักเริ่มขึ้นเมื่อคิมชินได้พบกับ จีอึนทัก เด็กสาวผู้มองเห็นวิญญาณได้และมีชะตาลิขิตให้เป็นเจ้าสาวของก็อบลิน ชีวิตของเธอดูเหมือนจะเต็มไปด้วยเรื่องเศร้า แต่เมื่อได้พบกับก็อบลิน ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นจากความเห็นอกเห็นใจกลายเป็นความรักที่ลึกซึ้งและบริสุทธิ์ แต่แล้วก็อบลินก็ต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบาก นั่นคือการเลือกระหว่างการใช้ชีวิตอมตะต่อไปกับหญิงสาวที่เขารัก หรือการปล่อยให้เธอใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่มีเขาอยู่เคียงข้าง และยอมรับความตายเพื่อปลดปล่อยตัวเองจากคำสาป

นอกจากเรื่องราวความรักของก็อบลินและจีอึนทักแล้ว ซีรีส์ยังมีตัวละครที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น ยมทูต ที่มีอดีตอันลึกลับ และ ซันนี่ เจ้าของร้านไก่ทอดที่มีชะตาผูกพันกับยมทูตในชาติภพก่อน ฉากสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้ตราตรึงใจคือ ฉากที่จีอึนทักเป่าเทียนเรียกก็อบลินมาหา ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของซีรีส์เรื่องนี้ นอกจากนี้ยังมีฉากที่ทำให้ผู้ชมน้ำตาซึมอย่างฉากที่ก็อบลินต้องเลือกระหว่างความรักกับความเป็นอมตะ

“Goblin ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ” เป็นซีรีส์ที่นอกจากจะให้ความบันเทิงแล้ว ยังสอดแทรกปรัชญาชีวิตเกี่ยวกับการเกิด แก่ เจ็บ ตาย และการให้อภัย ทำให้ผู้ชมได้ข้อคิดดี ๆ ในการใช้ชีวิต บอกได้เลยว่าถ้าคุณชอบซีรีส์ที่มีเรื่องราวความรักสุดโรแมนติก ผสมกับความแฟนตาซีและฉากดราม่า ซีรีส์เรื่องนี้จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืมเลยค่ะ

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.iq.com/
  • นักแสดงหลัก: กงยู, คิมโกอึน, อีดงอุค, ยูอินนา, ยุกซองแจ
  • ประเภท: โรแมนติก, แฟนตาซี, ดราม่า, คอมเมดี้
  • ความยาว: 16 ตอน (ตอนละประมาณ 60-90 นาที)
  • กำหนดฉาย: 2 ธันวาคม 2016 – 21 มกราคม 2017
  • ช่องทางรับชม: Netflix, Viu, iQIYI

2. Taxi Driver แท็กซี่จ้างแค้น

“Taxi Driver แท็กซี่จ้างแค้น” ไม่ใช่แค่ซีรีส์แอ็กชันทั่วไป แต่เป็นเรื่องราวที่สะท้อนความเจ็บปวดของผู้ที่ถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรมในสังคม เมื่อระบบกฎหมายไม่สามารถให้ความยุติธรรมได้ ทีมแท็กซี่สายดาร์กจึงได้ถือกำเนิดขึ้น!

เรื่องราวเริ่มต้นจาก คิมโดกี (รับบทโดย อีเจฮุน) อดีตนายทหารหน่วยรบพิเศษที่ต้องสูญเสียแม่ไปอย่างไม่เป็นธรรม แต่ด้วยความช่วยเหลือจาก จางซองชอล (รับบทโดย คิมอึยซอง) เขาได้กลายมาเป็นคนขับแท็กซี่ให้กับบริษัท Rainbow Taxi ที่ดูผิวเผินเหมือนบริษัทแท็กซี่ทั่วไป แต่ความจริงแล้วคือองค์กรลับที่ให้บริการ “แก้แค้นแทน” ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อและสิ้นหวัง

จุดเด่นที่น่าติดตาม คือการเล่าเรื่องแบบ “จบในตอน” ที่แต่ละเคสจะอ้างอิงจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญจริงในเกาหลีใต้ ทำให้คนดูรู้สึกร่วมและอินไปกับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น ทีมแท็กซี่จะใช้กลยุทธ์ที่เหนือชั้นและฉากแอ็กชันสุดมันส์เพื่อลงโทษผู้กระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นคดีบูลลี่ในโรงเรียน, การล่วงละเมิดในที่ทำงาน, คดีฉ้อโกง, หรือแม้แต่การใช้แรงงานทาส ทุกเคสจะทำให้คุณลุ้นระทึกไปกับการวางแผนแก้แค้นที่ชาญฉลาดของทีม

ฉากสำคัญที่ต้องดู คือฉากที่คิมโดกีปลอมตัวเป็นคนหลากหลายอาชีพเพื่อเข้าไปตีสนิทกับเหยื่อและผู้ร้าย การแสดงของอีเจฮุนในบทบาทที่แตกต่างกันไปในแต่ละเคส ทำให้คนดูเพลิดเพลินและคาดเดาไม่ได้เลยว่าเขาจะมาไม้ไหน ฉากแอ็กชันที่ทั้งดุดันและสมจริง, ฉากการไล่ล่าด้วยรถแท็กซี่, และฉากการแก้แค้นที่ทำให้คนดูสะใจเป็นพิเศษ เป็นสิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีเสน่ห์และแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ

หากคุณกำลังมองหาซีรีส์แอ็กชันที่เล่าเรื่องได้อย่างเข้มข้น, มีเนื้อหาที่ลุ่มลึก, และชวนให้ติดตามจนวางไม่ลง “Taxi Driver แท็กซี่จ้างแค้น” คือคำตอบที่คุณห้ามพลาด!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.viu.com/
  • นักแสดงหลัก: อีเจฮุน, คิมอึยซอง, พโยเยจิน, จางฮยอกจิน, แบยูรัม
  • ประเภท: แอ็กชัน, อาชญากรรม, ระทึกขวัญ, ดราม่า, แก้แค้น
  • ความยาว: ซีซัน 1: 16 ตอน ซีซัน 2: 16 ตอน
  • กำหนดฉาย: ซีซัน 1: 9 เมษายน – 29 พฤษภาคม 2021 ซีซัน 2: 17 กุมภาพันธ์ – 15 เมษายน 2023
  • ช่องทางรับชม : Viu, Netflix, Bilibili

3. รูมเมตฉันคือคุณชายจิ้งจอก

ซีรีส์เรื่องนี้จะพาเราไปรู้จักกับ อี ดัม (รับบทโดย อีฮเยริ) นักศึกษาสาวจอมโก๊ะที่ใช้ชีวิตแบบธรรมดา ๆ และไม่เคยคิดเลยว่าโชคชะตาจะเล่นตลกกับเธอได้ขนาดนี้ ในคืนหนึ่ง เธอได้บังเอิญกลืน ลูกแก้วจิ้งจอก เข้าไปในตัว ซึ่งลูกแก้วนี้เป็นสมบัติล้ำค่าของ ชินอูยอ (รับบทโดย จางกียง) คุณชายจิ้งจอกเก้าหางอายุกว่า 999 ปี ที่กำลังจะกลายเป็นมนุษย์ในอีกไม่นาน การที่ลูกแก้วเข้าไปอยู่ในตัวของอี ดัม ทำให้เขากับเธอต้องมาอยู่บ้านเดียวกันเพื่อหาวิธีนำลูกแก้วออกมาให้ได้

ชีวิตของทั้งคู่จึงเริ่มต้นขึ้นภายใต้ชายคาเดียวกัน จากคนแปลกหน้าก็ค่อย ๆ พัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นความรักที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งเรื่องลูกแก้วที่เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตของอี ดัม และตัวตนที่แตกต่างกันของพวกเขาเอง ซีรีส์เรื่องนี้มีจุดเด่นอยู่ที่เคมีระหว่างพระเอกนางเอกที่น่ารักและเข้ากันสุด ๆ รวมถึงฉากสำคัญ ๆ อย่างช่วงเวลาที่ทั้งคู่ต้องมาเรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกัน ทำให้เราได้เห็นมุมน่ารักและมุมตลกของแต่ละคน รวมถึงฉากที่ชินอูยอค่อย ๆ เรียนรู้ความรู้สึกของมนุษย์ และยอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนที่เขารัก ซึ่งทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่สร้างเสียงหัวเราะ แต่ยังแฝงไว้ด้วยความซาบซึ้งและอบอุ่นหัวใจอีกด้วย

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.iq.com/
  • นักแสดงหลัก: จางกียง, อีฮเยริ, คังฮันนา, คิมโดวาน, แบอินฮยอก
  • ประเภท: โรแมนติก, คอมเมดี้, แฟนตาซี
  • กำหนดฉาย: 26 พฤษภาคม – 15 กรกฎาคม 2021
  • ความยาว: 16 ตอน (ตอนละประมาณ 60-70 นาที)
  • ช่องทางรับชม: iQIYI

4. ราชันผู้งดงาม

“ราชันผู้งดงาม” คือซีรีส์พีเรียดเกาหลีที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมด้วยพล็อตเรื่องที่แปลกใหม่และน่าติดตามอย่างยิ่ง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากโศกนาฏกรรมในราชวงศ์ เมื่อมเหสีให้กำเนิดแฝดชายหญิง ซึ่งถือเป็นลางร้ายตามความเชื่อในยุคนั้น ทำให้เจ้าหญิงฝาแฝดถูกนำไปทิ้ง…

แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก เมื่อองค์รัชทายาทตัวจริงสิ้นพระชนม์อย่างปริศนา ทำให้เจ้าหญิงฝาแฝดผู้รอดชีวิตต้องกลับเข้าวังอีกครั้ง และสวมรอยเป็นองค์รัชทายาทเพื่อรักษาบัลลังก์ที่แท้จริงเอาไว้ เธอต้องปกปิดตัวตนที่แท้จริงในฐานะผู้หญิง และดำเนินชีวิตภายใต้ความกดดันและอันตรายรอบด้าน

จุดเด่นของเรื่องอยู่ที่การสร้างตัวละครที่มีมิติและน่าเอาใจช่วย ‘องค์รัชทายาท’ ที่แท้จริงคือผู้หญิงที่ต้องเข้มแข็งและเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ภายใน เธอต้องฝึกฝนทั้งการใช้ดาบ การปกครอง และการวางตัวให้สมกับความเป็นชาย แต่แล้วความรักที่ต้องห้ามก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อเธอได้พบกับ ‘จองจีอุน’ ครูสอนหนังสือประจำตัว ผู้ชายที่ทำให้เธอเปิดเผยหัวใจที่อ่อนแอและโดดเดี่ยวออกมา

ฉากสำคัญที่ทำให้เรื่องราวน่าติดตามคือความสัมพันธ์ระหว่างองค์รัชทายาทและจองจีอุน ที่ค่อยๆ พัฒนาจากความเคารพกลายเป็นความรักที่ลึกซึ้ง ความสัมพันธ์นี้เต็มไปด้วยความหวานที่น่ารักและความเจ็บปวดที่น่าสงสาร ทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมาย ทั้งกฎเกณฑ์ในวัง การเมืองที่อันตราย และความลับที่ไม่อาจเปิดเผยได้

เรื่องราวของ “ราชันผู้งดงาม” ไม่ได้มีเพียงแค่ความรักที่ต้องห้ามเท่านั้น แต่ยังสอดแทรกประเด็นการเมืองในวังที่เข้มข้น การแย่งชิงอำนาจ และการต่อสู้เพื่อความถูกต้องอีกด้วย ซีรีส์เรื่องนี้จะทำให้คุณลุ้นระทึกไปกับทุกการตัดสินใจของตัวละคร และซาบซึ้งไปกับความรักที่บริสุทธิ์และเสียสละ

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก: พัคอึนบิน, โรอุน, นัมยุนซู, ชเวบยองชาน, แบยุนคยอง, จองแชยอน
  • ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก, ย้อนยุค, การเมือง
  • ความยาว: 20 ตอน
  • วันที่ออกอากาศ: 11 ตุลาคม 2564
  • ช่องทางรับชม: Netflix

5. Cinderella at 2AM แผนรักคว้าใจซินเดอเรลล่า

เตรียมตัวให้พร้อมกับเรื่องราวความรักสุดโรแมนติกที่มาพร้อมกับความน่ารักสดใสในซีรีส์ “Cinderella at 2AM” ที่จะทำให้หัวใจของคุณเต้นไม่เป็นจังหวะ! ซีรีส์เรื่องนี้จะพาคุณไปสำรวจชีวิตของ ฮายุนจู หญิงสาวผู้ที่เคยใช้ชีวิตอย่างธรรมดา แต่เมื่อเธอได้พบกับชายหนุ่มคนหนึ่งในร้านสะดวกซื้อตอนตีสอง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป!

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ฮายุนจู ได้พบกับ ซอจูวอน ชายหนุ่มผู้ดูสมบูรณ์แบบราวกับเจ้าชายในเทพนิยาย แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกเมื่อเธอพบว่าเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลูกชายของประธานบริษัทที่เธอทำงานอยู่! ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายและลูกน้องจึงเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับเรื่องราวความรักที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและความวุ่นวาย

ซีรีส์เรื่องนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ พัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ แต่ก็ทำให้คนดูรู้สึกอินตามไปได้ง่ายๆ คุณจะได้เห็นมุมมองที่แตกต่างกันของตัวละครแต่ละตัว ซึ่งทำให้เรื่องราวมีความน่าสนใจและไม่น่าเบื่อ ฉากสำคัญที่คุณจะพลาดไม่ได้เลยคือฉากที่พระเอกและนางเอกได้พบกันครั้งแรกในร้านสะดวกซื้อตอนตีสอง และฉากที่ความลับของพระเอกเปิดเผยออกมา ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องราว

“Cinderella at 2AM” เป็นซีรีส์ที่ผสมผสานความโรแมนติก คอมเมดี้ และดราม่าเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ตัวละครมีเสน่ห์และทำให้เราหลงรักได้ไม่ยาก เรื่องราวชวนให้ติดตามและอยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วความรักของพวกเขาจะลงเอยอย่างไร ถ้าคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่จะทำให้คุณฟิน จิกหมอน และยิ้มตามไปได้ตลอดเรื่อง “Cinderella at 2AM” คือคำตอบ!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.viu.com/
  • นักแสดงหลัก: ชินฮยอนบิน, มุนซังมิน, คิมยูริ, คังยองซอก
  • ประเภท: โรแมนติก, คอมเมดี้
  • ความยาว: 10 ตอน
  • กำหนดฉาย: 24 สิงหาคม 2024
  • ช่องทางรับชม: Viu

6. Mr. Queen รักวุ่นวาย นายมเหสีหลงยุค

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่ จางบงฮวาน (รับบทโดย ชเวจินฮยอก) เชฟหนุ่มฝีมือดีจากยุคปัจจุบันที่ต้องมาสืบคดีทุจริตจนพลาดท่าตกน้ำในสระว่ายน้ำ ทำให้เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างของ คิมโซยง (รับบทโดย ชินฮเยซอน) พระมเหสีแห่งยุคโชซอน! ชีวิตที่เคยทันสมัยของเชฟหนุ่มต้องเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เมื่อเขาต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตในวังหลวงอย่างยากลำบาก และต้องพยายามหาทางกลับสู่โลกเดิมให้ได้ แต่การกลับมาครั้งนี้กลับเต็มไปด้วยอุปสรรคและเหตุการณ์ชวนปวดหัวมากมาย

จุดเด่นของเรื่องนี้คือการนำเสนอความแตกต่างทางวัฒนธรรมและยุคสมัยได้อย่างลงตัว ทำให้เกิดเป็นมุกตลกที่ชาญฉลาดและสร้างสรรค์ เช่น การที่พระมเหสีคิมโซยงมีนิสัยห้าวๆ แบบผู้ชาย ชอบพูดจาแบบสมัยใหม่ หรือการนำความรู้เรื่องอาหารจากยุคปัจจุบันมาประยุกต์ใช้ในวังหลวง จนกลายเป็นเมนูแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เรื่องราวดูสดใหม่และน่าติดตามไปตลอด

ส่วนฉากสำคัญที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจของเรื่องคือ ความสัมพันธ์ระหว่าง พระราชาชอลจง (รับบทโดย คิมจองฮยอน) ที่ในตอนแรกดูเหมือนจะเป็นพระราชาที่ไร้อำนาจ แต่แท้จริงแล้วกลับซ่อนความสามารถและไหวพริบเอาไว้มากมาย กับ พระมเหสีคิมโซยง ที่ตอนแรกก็ไม่เข้าใจกัน แต่สุดท้ายกลับค่อยๆ พัฒนาความรู้สึกดีๆ ต่อกันและกัน กลายเป็นความรักที่ลึกซึ้งและอบอุ่นใจ บอกเลยว่าเคมีของทั้งคู่เข้ากันสุดๆ รับรองว่าถูกใจแฟนๆ ซีรีส์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้แน่นอน

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก: ชินฮเยซอน, คิมจองฮยอน, แบจงอ๊ก, คิมแทอู, ยูมินกยู
  • ประเภท: คอมเมดี้, แฟนตาซี, ย้อนยุค, โรแมนติก, ดราม่า
  • กำหนดฉาย: 12 ธันวาคม 2020
  • ความยาว: 20 ตอน
  • ช่องทางรับชม: Viu, Netflix, WeTV

7. จอมราชันบัลลังก์อมตะ

ซีรีส์เรื่องนี้มีเนื้อหาที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะเป็นการเล่าเรื่องใน โลกคู่ขนาน ที่มีตัวละครที่มีหน้าตาเหมือนกัน แต่มีชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ องค์ชายอีกน (รับบทโดย อีมินโฮ) แห่งราชอาณาจักรโครยอ ถูกลอบปลงพระชนม์ในวัยเด็ก แต่กลับรอดชีวิตมาได้ และได้พบกับ ร้อยตำรวจเอกจองแทอึล (รับบทโดย คิมโกอึน) จากสาธารณรัฐเกาหลีในอีกมิติหนึ่ง การพบกันของทั้งคู่เป็นจุดเริ่มต้นของการไขปริศนาต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงระหว่างสองโลกเข้าด้วยกัน ทั้งเรื่องการแย่งชิงบัลลังก์ การตามล่าคนร้าย และความรักที่เบ่งบานขึ้นท่ามกลางความวุ่นวาย

จุดเด่นที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้น่าติดตาม คือ การดำเนินเรื่องที่ลุ้นระทึกและน่าติดตามตลอดเวลา โดยเฉพาะฉากที่ องค์ชายอีกน ต้องเดินทางข้ามมิติเพื่อตามหาคนร้ายที่สังหารพ่อของเขาและต้องการยึดครองบัลลังก์ ส่วน ฉากสำคัญ ที่ไม่ควรพลาดคือฉากที่ องค์ชายอีกน ขี่ม้าคู่ใจ “แม็กซิมัส” ข้ามผ่านประตูมิติมายังโลกปัจจุบันเพื่อตามหา ร้อยตำรวจเอกจองแทอึล เป็นฉากที่โรแมนติกและประทับใจมาก นอกจากนี้ ซีรีส์ยังนำเสนอความรักที่แสนโรแมนติกของตัวละครหลักที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน ทำให้ผู้ชมรู้สึกอินไปกับตัวละครทุกตัว

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก: อีมินโฮ, คิมโกอึน, อูโดฮวาน, คิมคยองนัม, จองอึนแช
  • ประเภท: โรแมนติก, แฟนตาซี, ลึกลับ, ดราม่า
  • ความยาว: 16 ตอน (ตอนละประมาณ 60 นาที)
  • กำหนดฉาย: 17 เมษายน 2020
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

8. โฮมทาวน์ ชะชะช่า

“โฮมทาวน์ ชะชะช่า” คือซีรีส์ที่จะมาฮีลใจคุณให้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ความอบอุ่น และรอยยิ้มอย่างไม่รู้ตัว เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ยุนฮเยจิน (รับบทโดย ชินมินอา) ทันตแพทย์สาวคนเก่งจากกรุงโซล ที่ชีวิตต้องพลิกผันจากความทะเยอทะยาน สู่การตัดสินใจย้ายมาเปิดคลินิกเล็ก ๆ ในหมู่บ้านริมทะเลสุดแสนสงบอย่างกงจิน

ที่นี่ เธอได้พบกับ ฮงดูชิก (รับบทโดย คิมซอนโฮ) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า หัวหน้าฮง ชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยปริศนา แต่กลับทำได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ซ่อมแซมสิ่งของ, เป็นไกด์นำเที่ยว, ไปจนถึงเป็นผู้ช่วยแม่ค้าในตลาด หัวหน้าฮงคือผู้ที่เป็นทุกอย่างสำหรับทุกคนในกงจิน และเป็นคนแรกที่เข้ามาช่วยฮเยจินในยามที่เธอต้องเผชิญกับความวุ่นวายต่าง ๆ ในชีวิตชนบท

จุดเด่นของเรื่องนี้คือการเล่าเรื่องที่เรียบง่าย แต่กลับสอดแทรกความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับการใช้ชีวิต การเติมเต็มความสุขที่ไม่ได้มาจากเงินทอง แต่มาจากความสัมพันธ์ของผู้คนในชุมชน การได้เห็นฮเยจินที่ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบในเมืองกรุง ค่อย ๆ ปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตที่ช้าลง ได้เรียนรู้ที่จะเปิดใจรับผู้คนใหม่ ๆ ได้เห็นหัวหน้าฮงที่ดูเหมือนจะเป็นคนธรรมดา แต่กลับซ่อนเรื่องราวในอดีตที่น่าเศร้าเอาไว้

เรื่องราวความรักของทั้งคู่ก็ดำเนินไปอย่างช้า ๆ เหมือนคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งอย่างแผ่วเบา จากความขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มาจากความแตกต่างของมุมมองและความคิด สู่ความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เคมีของชินมินอาและคิมซอนโฮนั้นเข้ากันได้อย่างลงตัว ทำให้เราอินไปกับความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นทีละน้อย และอยากจะเอาใจช่วยให้ทั้งคู่ได้ลงเอยกันในที่สุด

แต่ไม่ใช่แค่เรื่องราวความรักของพระนางเท่านั้นที่น่าสนใจ “โฮมทาวน์ ชะชะช่า” ยังทำให้เราหลงรักทุกตัวละครในหมู่บ้านกงจิน ไม่ว่าจะเป็นคุณยายที่น่ารัก, แม่ค้าที่ชอบนินทา, หรือแม้แต่เด็ก ๆ ในหมู่บ้าน ทุกคนล้วนมีเรื่องราวของตัวเองที่น่าติดตาม ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้กลายเป็นมากกว่าแค่ซีรีส์รักโรแมนติก แต่คือเรื่องราวของชุมชนที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น

หากคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่จะมาฮีลใจ, สร้างรอยยิ้ม, และทำให้หัวใจพองโต “โฮมทาวน์ ชะชะช่า” คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก: ชินมินอา, คิมซอนโฮ, อีซังอี
  • ประเภท: โรแมนติก, คอมเมดี้, ดราม่า
  • ความยาว: 16 ตอน ตอนละประมาณ 70-80 นาที
  • กำหนดฉาย: 28 สิงหาคม 2564 – 17 ตุลาคม 2564
  • ช่องทางรับชม: Netflix

9. โกสต์ด็อกเตอร์: ผีหมอ หมอผี

“Ghost Doctor” เล่าเรื่องราวของสองหมอที่ต่างกันสุดขั้ว คนหนึ่งคือ “ชาอึนแท็ค” (รับบทโดย Rain) ศัลยแพทย์ทรวงอกอัจฉริยะที่เก่งกาจและเย่อหยิ่ง แต่กลับไม่เชื่อในเรื่องของโชคชะตาหรืออะไรที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ อีกคนหนึ่งคือ “โกซึงทัก” (รับบทโดย Kim Bum) หมออินเทิร์นที่ดูเหมือนไม่เอาไหน ชอบทำตัวตลกโปกฮา แต่จริง ๆ แล้วเขามีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ นั่นก็คือเขามองเห็นวิญญาณได้!

เรื่องราวพลิกผันเมื่อชาอึนแท็คประสบอุบัติเหตุจนวิญญาณหลุดออกจากร่าง กลายเป็นวิญญาณที่ต้องล่องลอยอยู่ภายในโรงพยาบาล เขาได้พบกับโกซึงทักและได้รู้ว่าโกซึงทักคือคนเดียวที่มองเห็นและได้ยินเขา และที่สำคัญกว่านั้นคือเขาค้นพบว่าเขาสามารถสิงร่างของโกซึงทักได้!

จากนั้นเรื่องราวก็เข้มข้นขึ้น เมื่อชาอึนแท็คต้องใช้ร่างของโกซึงทักเพื่อทำการผ่าตัดช่วยชีวิตคนไข้ ซึ่งทำให้โกซึงทักที่ดูเหมือนจะไร้ความสามารถ กลายเป็นหมออัจฉริยะในชั่วพริบตา ความลับนี้ทำให้พวกเขาทั้งคู่ต้องร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาและเผชิญหน้ากับเรื่องราวลึกลับที่ซับซ้อนภายในโรงพยาบาล รวมถึงเรื่องราวของ “โกชานบิล” วิญญาณที่ล่องลอยอยู่ภายในโรงพยาบาลมานาน

จุดเด่นของเรื่องนี้คือการผสมผสานเรื่องราวการแพทย์ที่เข้มข้นกับการสืบสวนคดีที่น่าตื่นเต้น และที่สำคัญคือมิตรภาพระหว่างสองหมอที่ต่างขั้วนี้ ที่ถึงแม้จะทะเลาะกันอยู่บ่อย ๆ แต่ก็ช่วยเหลือกันและกันได้อย่างน่ารักและลงตัว!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก: Rain, Kim Bum, Uee, Son Na-eun, Sung Dong-il
  • ประเภท: การแพทย์, แฟนตาซี, ตลก, โรแมนติก
  • ความยาว: 16 ตอน
  • กำหนดฉาย: 3 มกราคม 2565
  • ช่องทางรับชม: Viu, Netflix

10. Crash Landing on You ปักหมุดรักฉุกเฉิน

ซีรีส์เกาหลีในดวงใจใครหลายคน “Crash Landing on You ปักหมุดรักฉุกเฉิน” ซีรีส์ที่ไม่ได้เป็นแค่เรื่องราวความรักโรแมนติกธรรมดา แต่เป็นการเดินทางข้ามพรมแดนที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและบททดสอบใจ

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ยุนเซรี (รับบทโดย ซนเยจิน) ทายาทสาวสุดหรูและประธานบริษัทแฟชั่นชื่อดังของเกาหลีใต้ เกิดอุบัติเหตุพารามอเตอร์ร่อนลงจอดผิดที่ผิดทาง เธอตื่นขึ้นมาในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยและตกใจสุดขีดเมื่อรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน… เกาหลีเหนือ! ในสถานการณ์คับขันที่เต็มไปด้วยอันตรายนี้เอง เธอได้พบกับ รีจองฮยอก (รับบทโดย ฮยอนบิน) เจ้าหน้าที่ทหารหนุ่มสุดหล่อประจำกองทัพเกาหลีเหนือ ผู้มีความซื่อตรงและเป็นสุภาพบุรุษ แม้จะตกอยู่ในสถานะการณ์ที่เสี่ยงต่อชีวิต แต่รีจองฮยอกก็เลือกที่จะช่วยเหลือยุนเซรีอย่างลับๆ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความรักที่ไม่มีใครคาดคิด

ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ฉากโรแมนติกชวนฝัน แต่เต็มไปด้วยฉากที่ทำให้หัวใจเต้นแรงและประทับใจไม่รู้ลืม ฉากสำคัญที่กลายเป็นที่พูดถึงคือ ฉากพารามอเตอร์ที่ปักลงในเขตห้ามเข้าของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด หรือ ฉากที่รีจองฮยอกปกป้องยุนเซรี จากอันตรายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเกาหลีเหนือ แสดงให้เห็นถึงความรักและความเสียสละที่ไม่จำกัดพรมแดน นอกจากนี้ยังมี ฉากที่ยุนเซรีพยายามปรับตัวเข้ากับชีวิตเรียบง่ายของชาวเกาหลีเหนือ ซึ่งเต็มไปด้วยอารมณ์ขันและความน่ารัก และที่ขาดไม่ได้คือ ฉากการจากลาที่สะเทือนอารมณ์ ทั้งสองต้องเผชิญกับความเป็นจริงที่โหดร้ายของพรมแดนที่กั้นกลาง แต่ก็ยังคงรอคอยวันที่จะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง

“Crash Landing on You” ไม่ใช่แค่ซีรีส์รักโรแมนติก แต่ยังเป็นเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันอบอุ่นระหว่างตัวละครรอง ไม่ว่าจะเป็น สหายทหารทั้งสี่ ที่สร้างสีสันและมิตรภาพอันน่าประทับใจ หรือ แม่บ้านเกาหลีเหนือ ที่คอยดูแลยุนเซรีอย่างจริงใจ ซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เราได้เห็นว่าความรัก, มิตรภาพ, และความเข้าใจ สามารถเกิดขึ้นได้แม้ในสภาวะที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก: ฮยอนบิน, ซนเยจิน, คิมจองฮยอน, ซอจีฮเย
  • ประเภท: โรแมนติก, ดราม่า, คอมเมดี้, แอคชั่น
  • ความยาว: 16 ตอน
  • กำหนดฉาย: 14 ธันวาคม 2562
  • ช่องทางรับชม: Netflix

การดูซีรีส์เกาหลีพากย์ไทยในปัจจุบันถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านซับไตเติล ไม่ต้องกังวลว่าความสนุกจะลดลง เพราะทีมพากย์มืออาชีพได้ทุ่มเทสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพเพื่อให้เราได้สัมผัสเรื่องราวสุดเข้มข้นได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวรักโรแมนติกที่ชวนให้ใจเต้น หรือเรื่องราวแอคชั่นที่ลุ้นระทึกไปพร้อมๆ กับตัวละคร ก็ยังคงเต็มอิ่มและเข้าถึงได้ง่ายเหมือนเดิม

สุดท้ายนี้ ถ้าใครกำลังมองหาช่องทางใหม่ๆ ในการดูซีรีส์เกาหลี ลองเปิดใจให้กับการดูแบบพากย์ไทยดูสักครั้งนะคะ คุณอาจจะค้นพบความสนุกที่แตกต่างไปจากเดิมก็เป็นได้ แล้วคุณจะรู้ว่า ซีรี่ย์เกาหลี พากย์ไทย ไม่ได้มีแค่ความสะดวก แต่ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเติมเต็มอรรถรสในการดูซีรีส์ได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว


แชร์บทความนี้