10 อันดับ หนังการ์ตูน อนิเมชั่น ยอดเยี่ยมตลอดกาลที่คุณไม่ควรพลาด

บอกตามตรงนะ บางทีแค่ได้ยินคำว่า “หนังการ์ตูน” หรือ “อนิเมชั่น” หัวใจของพวกเราหลายคนก็พองโตขึ้นมาแล้วจริงไหม? มันเป็นเหมือนประตูวิเศษที่พาเราย้อนกลับไปในวัยเด็ก ให้เราได้หัวเราะคิกคักไปกับตัวละครน่ารักๆ หรือลุ้นระทึกไปกับการผจญภัยสุดตื่นเต้น ไม่ว่าจะเป็นลายเส้นคลาสสิกที่คุ้นเคย หรือภาพ 3 มิติสุดอลังการ หนังการ์ตูน อนิเมชั่น ไม่เคยหยุดที่จะทำให้เราประหลาดใจ และเชื่อว่าทุกคนต้องมีเรื่องโปรดในใจที่ดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อแน่นอน


แล้วอะไรที่ทำให้ หนังการ์ตูน อนิเมชั่น มันมีเสน่ห์ขนาดนี้? ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะมันไร้ขีดจำกัดไงล่ะ โลกของอนิเมชั่นเปิดกว้างให้ทุกจินตนาการโลดแล่น ไม่ว่าจะเป็นสัตว์พูดได้ หุ่นยนต์ครองโลก หรือเวทมนตร์คาถาที่เสกได้ทุกสิ่ง ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอในโลกที่สร้างสรรค์ด้วยปลายปากกาและโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และไม่ว่าอายุเท่าไหร่ เราก็ยังคงได้รับแรงบันดาลใจ ข้อคิดดีๆ หรือแม้แต่บทเรียนชีวิตจากเรื่องราวเหล่านี้


ยิ่งไปกว่านั้น หนังการ์ตูน อนิเมชั่น ยังเป็นเสมือนสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมเลยนะ ลองนึกภาพการได้นั่งดูการ์ตูนเรื่องโปรดกับครอบครัว หรือเพื่อนสนิทสิ มันคือช่วงเวลาแห่งความสุข ความผ่อนคลาย ที่เราได้หัวเราะและแบ่งปันโมเมนต์ดีๆ ร่วมกัน บางครั้งบทสนทนาดีๆ ก็เริ่มต้นขึ้นจากการ์ตูนเรื่องเดียวกันนี่แหละ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะหาอะไรดูแก้เบื่อ หรืออยากได้อะไรที่ดูได้ทั้งครอบครัว หนังการ์ตูน อนิเมชั่น คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์เสมอจริงๆ


1. The Secret Life of Pets เรื่องลับแก๊งขนฟู

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในอพาร์ตเมนต์แสนอบอุ่นในมหานครนิวยอร์ก ที่ซึ่ง “แม็กซ์” สุนัขพันธุ์แจ็ครัสเซลล์เทอร์เรียผู้ซื่อสัตย์และหลงรักเจ้าของอย่าง “เคธี่” สุดหัวใจ กำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับเพื่อนสัตว์เลี้ยงมากมายที่อาศัยอยู่ในตึกเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น “กิดเจ็ต” ปอมเมอเรเนียนสาวผู้แอบหลงรักแม็กซ์, “โคลอี้” แมวอ้วนขี้เบื่อ หรือ “บัดดี้” หมาดัชชุนจอมกวน ทุกอย่างดูเหมือนจะดำเนินไปอย่างสงบสุข…จนกระทั่งวันหนึ่ง!

ฉากสำคัญที่เปลี่ยนชีวิตแม็กซ์: เคธี่ได้นำสุนัขจรจัดพันธุ์ทางตัวใหญ่ขนปุยชื่อ “ดุ๊ก” เข้ามาในบ้าน! นี่คือจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายครั้งใหญ่ เมื่อแม็กซ์รู้สึกว่าถูกแย่งความรักและพื้นที่ไปจากดุ๊ก ทั้งสองเริ่มต้นการแข่งขันเพื่อแย่งชิงความสนใจจากเคธี่อย่างดุเดือด นำไปสู่สถานการณ์วายป่วงที่ทำให้พวกเขาพลัดหลงจากบ้านไปกลางเมืองนิวยอร์ก!

การผจญภัยสุดหรรษา: แม็กซ์และดุ๊กต้องเรียนรู้ที่จะร่วมมือกันเพื่อเอาชีวิตรอดในโลกภายนอกที่เต็มไปด้วยอันตราย ทั้งสองต้องเผชิญหน้ากับแก๊งสัตว์เลี้ยงถูกทอดทิ้งใต้ดินที่นำโดยกระต่ายน้อยจอมโหดแต่แฝงความน่ารักอย่าง “สโนว์บอล” ซึ่งมีความแค้นกับมนุษย์สุดๆ! ฉากการเผชิญหน้าระหว่างแม็กซ์, ดุ๊ก และแก๊งสโนว์บอลเต็มไปด้วยความฮา ปั่นป่วน และความวุ่นวายที่คาดไม่ถึง

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก: หลุยส์ ซี.เค., เอริค สโตนสตรีท, เควิน ฮาร์ท, เจนนี่ สเลต, อิลลาน่า กล้างเซอร์, อัลเบิร์ต บรูคส์, เลค เบลล์, ดาน่า คาร์วีย์, แฮนนิบาล เบอร์เรส, บ็อบบี้ มอยนิฮาน, คริส เรโนด์
  • ประเภท: แอนิเมชัน, ตลก, ผจญภัย, ครอบครัว
  • ความยาว: 1 ชั่วโมง 27 นาที
  • กำหนดฉาย: 11 สิงหาคม 2016
  • ช่องทางรับชม : Netflix

2.  Megamind จอมวายร้ายพิทักษ์โลก

คุณเคยสงสัยไหมว่าถ้าจอมวายร้ายได้รับชัยชนะเหนือซูเปอร์ฮีโร่ แล้วอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป? “Megamind จอมวายร้ายพิทักษ์โลก” คือภาพยนตร์แอนิเมชันที่จะพาคุณดำดิ่งสู่คำตอบนั้น พร้อมกับนำเสนอเรื่องราวสุดหักมุมที่เต็มไปด้วยความฮา ความอบอุ่น และข้อคิดดีๆ ที่คุณจะคาดไม่ถึง

Megamind จอมวายร้ายอัจฉริยะที่มาพร้อมสมองอันชาญฉลาดแต่ไม่เคยได้รับความรัก มักจะคิดค้นแผนการชั่วร้ายเพื่อโค่นล้ม Metro Man ซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจประชาชนอยู่เสมอ แต่ทุกครั้งเขาก็ต้องพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งวันหนึ่ง ในที่สุด Megamind ก็ทำสำเร็จ! เขาสามารถกำจัด Metro Man ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ความรู้สึกแรกที่เขาสัมผัสได้คือความว่างเปล่า เมื่อไม่มีศัตรูคู่ปรับที่คอยท้าทาย ชีวิตของจอมวายร้ายที่เคยตื่นเต้นกลับกลายเป็นความเบื่อหน่ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ด้วยความรู้สึกเหงาและไร้จุดหมาย Megamind จึงตัดสินใจสร้างซูเปอร์ฮีโร่คนใหม่ขึ้นมาเพื่อเป็นคู่ปรับของเขา แต่เรื่องราวกลับไม่เป็นไปตามแผน เมื่อฮีโร่ที่เขาสร้างขึ้นมากลับกลายเป็นวายร้ายที่น่ากลัวกว่าตัวเขาเสียอีก สถานการณ์พลิกผันให้ Megamind ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ เขาต้องก้าวข้ามบทบาทจอมวายร้ายที่คุ้นเคย และกลายเป็นความหวังเดียวของเมืองในการกอบกู้สถานการณ์!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก: Will Ferrell, Tina Fey, Brad Pitt, Jonah Hill, David Cross
  • ประเภท: แอนิเมชัน, ตลก, ซูเปอร์ฮีโร่, ครอบครัว, ผจญภัย
  • ความยาว: 95 นาที
  • กำหนดฉาย: 5 พฤศจิกายน 2010
  • ช่องทางรับชม : Netflix

3. Kangfu Panda กังฟู แพนด้า

“Kung Fu Panda” ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์แอนิเมชันที่เต็มไปด้วยฉากแอ็กชันสุดมันส์เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ ความตลก และข้อคิดดีๆ ที่ทำให้คุณหลงรักเจ้าแพนด้าอ้วนตุ้ยนุ้ยอย่าง “โพ” ได้ไม่ยากเลยครับ

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในหุบเขาสันติภาพ ที่ซึ่ง “โพ” แพนด้าอ้วนกลมผู้หลงใหลในกังฟูเป็นชีวิตจิตใจ แต่กลับต้องช่วยพ่อขายบะหมี่ ไม่ได้มีโอกาสฝึกฝนวิทยายุทธใดๆ วันๆ ได้แต่มโนว่าตัวเองเป็นปรมาจารย์กังฟูผู้ยิ่งใหญ่ แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก เมื่อปรมาจารย์อูเกวเลือกโพให้เป็น “นักรบมังกร” ผู้ที่จะมาปกป้องหุบเขาจาก “ไต้หลุง” เสือดาวหิมะที่เกรี้ยวกราดและอันตราย ซึ่งกำลังจะหลบหนีออกจากคุก และพร้อมจะกลับมาล้างแค้น!

“Kung Fu Panda” สอนเราว่าฮีโร่ไม่ได้มาจากรูปร่างหน้าตาที่สมบูรณ์แบบ หรือความสามารถที่มีมาตั้งแต่เกิด แต่มาจากความมุ่งมั่น ความเชื่อมั่นในตัวเอง และการค้นพบ “ความลับ” ที่แท้จริงซึ่งอยู่ในตัวเราทุกคนนั่นเองครับ เป็นภาพยนตร์ที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย และคุณจะหลงรักเจ้าแพนด้าอ้วนตุ้ยนุ้ยตัวนี้อย่างแน่นอน!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก: แจ็ค แบล็ค, ดัสติน ฮอฟแมน, แองเจลินา โจลี, ลูซี หลิว, เซธ โรเกน, แจ็คกี้ ชาน, เดวิด ครอส, เอียน แมคเชน
  • ประเภท: แอนิเมชัน, แอ็กชัน, ผจญภัย, ตลก, ครอบครัว
  • ความยาว: 92 นาที
  • กำหนดฉาย: 28 มิถุนายน 2551
  • ช่องทางรับชม : Netflix

4. Rise of the Guardians ห้าเทพผู้พิทักษ์

ภาพยนตร์เปิดเรื่องด้วยการแนะนำให้เรารู้จักกับ แจ็ค ฟรอสต์ (Jack Frost) วิญญาณแห่งความหนาวเย็นผู้โดดเดี่ยว ที่แม้จะมีพลังมหาศาลในการสร้างหิมะและน้ำแข็ง แต่เขากลับไม่มีใครมองเห็นหรือจดจำได้ ความปรารถนาอันแรงกล้าของแจ็คคือการค้นหาตัวตนและเหตุผลในการมีอยู่ของเขา จนกระทั่งเขาได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “ผู้พิทักษ์” โดยดวงจันทร์ ซึ่งเป็นผู้มอบพลังและคอยชี้นำทาง

จุดเด่นของเรื่องอยู่ที่การรวมตัวของเหล่าผู้พิทักษ์ที่เราคุ้นเคยกันดี: ซานตาคลอส (North) ผู้แข็งแกร่งและเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแห่งเทศกาลคริสต์มาส, กระต่ายอีสเตอร์ (Bunnymund) ผู้หงุดหงิดแต่ก็รักความยุติธรรม, นางฟ้าฟัน (Tooth) ผู้อ่อนโยนแต่ก็รักการผจญภัย และ แซนด์แมน (Sandman) ผู้นิ่งสงบแต่ทรงพลังในการมอบความฝันอันแสนสุขให้กับเด็ก ๆ

ภัยคุกคามที่เหล่าผู้พิทักษ์ต้องเผชิญคือ พิตช์ แบล็ค (Pitch Black) หรือ บูกี้แมน (Boogeyman) ปีศาจแห่งความกลัว ผู้ต้องการทำให้โลกมืดมิดด้วยการทำลายความเชื่อและความฝันของเด็ก ๆ เขาเริ่มต้นด้วยการขโมยฟันจากนางฟ้าฟัน ทำให้เด็ก ๆ สูญเสียความหวังและความสุข จนไม่สามารถฝันถึงสิ่งดี ๆ ได้อีกต่อไป

เรื่องราวดำเนินไปอย่างเข้มข้น มีทั้งฉากแอ็กชันสุดมันส์ การผจญภัยที่น่าตื่นเต้น และช่วงเวลาที่อบอุ่นหัวใจ การรวมพลังของเหล่าผู้พิทักษ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ก็มีเป้าหมายเดียวกัน ทำให้เราได้เห็นมิตรภาพและความสามัคคีที่แข็งแกร่ง ความตื่นเต้น จะอยู่กับเราตั้งแต่ต้นจนจบ ในขณะที่เราลุ้นไปกับแจ็ค ฟรอสต์ในการค้นหาอดีตของเขาและการยอมรับบทบาทใหม่ในการเป็นฮีโร่ผู้พิทักษ์ความฝันของเด็ก ๆ ทุกคน

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก: คริส ไพน์, อเล็ก บอลด์วิน, จู๊ด ลอว์, อิสลา ฟิชเชอร์, ฮิวจ์ แจ็คแมน
  • ประเภท: แอนิเมชัน, แฟนตาซี, ผจญภัย, ตลก
  • ความยาว: 1 ชั่วโมง 37 นาที
  • กำหนดฉาย: 21 พฤศจิกายน 2012
  • ช่องทางรับชม : Netflix

5. Storks บริการนกกระสาเบบี๋เดลิเวอรี่

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่ “จูเนียร์” นกกระสาผู้ทะเยอทะยานและเป็นดาราประจำบริษัท เขาใกล้จะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นบอสใหญ่แล้ว แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก เมื่อ “ทิวลิป” มนุษย์คนเดียวที่เหลืออยู่ในบริษัท ซึ่งเป็นเด็กกำพร้าที่นกกระสาตัวหนึ่งส่งผิดพลาดไปเมื่อ 18 ปีก่อนและไม่เคยถูกส่งไปให้ครอบครัวเลย เธอคือตัวปัญหาที่จูเนียร์ได้รับมอบหมายให้ไล่ออก เพื่อให้บริษัทดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น! แทนที่จะไล่ทิวลิปออก ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ กลับนำไปสู่การเปิด “เครื่องผลิตเด็ก” ขึ้นมาอีกครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ และสิ่งที่ออกมาก็คือ เบบี๋ตัวน้อยแสนน่ารัก ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน! เบบี๋คนนี้ไม่ได้เป็นของใคร และถ้าบอสใหญ่รู้เข้า ทั้งจูเนียร์และทิวลิปจะต้องเจอดีแน่ๆ

จุดเด่นของเรื่องนี้อยู่ที่ความอลหม่านที่เกิดขึ้นเมื่อจูเนียร์และทิวลิปต้องร่วมมือกันเพื่อ “กำจัดหลักฐาน” ด้วยการนำเบบี๋คนนี้ไปส่งให้ถึงมือครอบครัวให้ได้ก่อนที่ใครจะรู้ ในการผจญภัยสุดบ๊องนี้ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมาย ทั้งฝูงหมาป่าที่จ้องจะ “เลี้ยง” เบบี๋, นกพิราบจอมสอดรู้สอดเห็น, และที่สำคัญคือต้องหลบเลี่ยง “ฮันเตอร์” บอสใหญ่ผู้บ้างานและมีสายตาเฉียบคม

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.hbomax.com/
  • นักแสดงหลัก: แอนดี แซมเบิร์ก (Andy Samberg), เคที ครอว์ฟอร์ด (Katie Crown), เคลซีย์ แกรมเมอร์ (Kelsey Grammer), เจนนิเฟอร์ อนิสตัน (Jennifer Aniston), ไท เบอร์เรลล์ (Ty Burrell), แดนนี่ เทรโฮ (Danny Trejo), คีแกน-ไมเคิล คีย์ (Keegan-Michael Key), จอร์แดน พีล (Jordan Peele)
  • ประเภท: แอนิเมชัน, ตลก, ผจญภัย, ครอบครัว
  • ความยาว: 87 นาที
  • กำหนดฉาย: 23 กันยายน 2559
  • ช่องทางรับชม : hbomax

6. The Mitchells vs. the Machines บ้านมิตเชลล์ปะทะจักรกล

ลองจินตนาการดูสิว่า… ครอบครัวของคุณที่แสนจะ “ไม่เหมือนใคร” กำลังจะออกเดินทางไปส่งลูกสาวคนโตเข้ามหาวิทยาลัย ความฝันของทุกคนคือการได้ใช้เวลาร่วมกันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะโบยบิน แต่แล้ว… จู่ๆ โลกก็ถูกยึดครองโดยกองทัพหุ่นยนต์! ใช่แล้วครับ นี่คือเรื่องราวสุดปั่นป่วนของ The Mitchells vs. the Machines ภาพยนตร์แอนิเมชันที่จะทำให้คุณหัวเราะไปกับความวุ่นวาย ซาบซึ้งไปกับสายสัมพันธ์ของครอบครัว และตื่นเต้นไปกับการผจญภัยที่คาดไม่ถึง

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นกับ เคธี่ มิตเชลล์ สาวน้อยนักสร้างภาพยนตร์ผู้เปี่ยมไปด้วยจินตนาการและความเป็นตัวของตัวเอง เธอใฝ่ฝันที่จะได้เข้าเรียนในโรงเรียนสอนภาพยนตร์และเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่พ่อของเธอ ริค มิตเชลล์ ผู้รักธรรมชาติและเกลียดเทคโนโลยีเข้าไส้ กลับมองว่าความฝันของลูกสาวนั้นห่างไกลจากความเป็นจริงไปหน่อย และด้วยความหวังที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนจะห่างเหินกันไป พ่อจึงตัดสินใจพาทั้งครอบครัวออกเดินทาง Road Trip ไปส่งเคธี่ด้วยตัวเอง! แน่นอนว่าทริปนี้เต็มไปด้วยความอลหม่านตั้งแต่ยังไม่ทันออกจากบ้าน

แต่แล้ว ความวุ่นวายของครอบครัวมิตเชลล์ก็ดูจะจิ๊บจ๊อยไปเลย เมื่อจู่ๆ โลกก็ถูกยึดครองโดยกองทัพหุ่นยนต์สุดไฮเทค! จุดกำเนิดของหายนะครั้งนี้มาจาก PAL AI อัจฉริยะที่เคยเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่เมื่อมันถูกทอดทิ้งและแทนที่ด้วยหุ่นยนต์บริการรุ่นใหม่ มันก็ตัดสินใจที่จะแก้แค้นมนุษย์และสร้าง “โลกที่ไร้มนุษย์” ขึ้นมาแทนที่

ท่ามกลางความโกลาหลที่เกิดขึ้น ครอบครัวมิตเชลล์กลายเป็นความหวังสุดท้ายของมนุษยชาติอย่างไม่ตั้งใจ พวกเขาคือมนุษย์กลุ่มเดียวที่ยังรอดพ้นจากการถูกจับกุม และนั่นก็เป็นเพราะความไม่เหมือนใครและอุปกรณ์ “ยุคหิน” ที่พกติดตัวมาด้วย! ฉากสำคัญ ที่เป็นหัวใจของเรื่องคือช่วงที่ครอบครัวต้องเผชิญหน้ากับกองทัพหุ่นยนต์ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง แต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจที่แปลกประหลาดของพวกเขา แต่ละคนต่างงัด “ทักษะ” และ “ความบ้าบิ่น” ที่มีออกมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นริคกับทักษะเอาตัวรอดในธรรมชาติ แม่ผู้มองโลกในแง่ดีและเป็นกาวใจอย่าง ลินดา, น้องชายตัวแสบ แอรอน ผู้คลั่งไคล้ไดโนเสาร์, และแน่นอน เจ้าหมาปั๊กตากลมโตอย่าง มอนจิ ที่ดูเหมือนจะไม่มีพิษภัยอะไรแต่ก็สร้างความฮาได้ทุกเมื่อ

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก: อับบี้ จาค็อบสัน, แดนนี่ แมคไบรด์, มายา รูดอล์ฟ, ไมค์ ริอันดา, เอริค อังเดร, โอลิเวีย โคลแมน
  • ประเภท: แอนิเมชัน, ตลก, วิทยาศาสตร์แฟนตาซี, ผจญภัย
  • ความยาว: 1 ชั่วโมง 54 นาที
  • กำหนดฉาย: 23 เมษายน 2021
  • ช่องทางรับชม : Netflix

7. แม่มดน้อยกิกิ

เรื่องราวของแม่มดน้อยกิกิ หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า “Kiki’s Delivery Service” เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) ที่กำกับโดยปรมาจารย์แห่งวงการอนิเมะอย่าง ฮายาโอะ มิยาซากิ (Hayao Miyazaki) ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ภาพที่สวยงามและเพลงประกอบที่ไพเราะจับใจเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยข้อคิดและแรงบันบันดาลใจที่สามารถเข้าถึงใจผู้ชมได้ทุกเพศทุกวัย

“แม่มดน้อยกิกิ” บอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยของ กิกิ แม่มดสาวน้อยวัย 13 ปี ที่ต้องออกเดินทางจากบ้านเกิดไปใช้ชีวิตอิสระในเมืองใหญ่ตามธรรมเนียมของแม่มด การเดินทางครั้งนี้คือการเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเอง ค้นหาเส้นทางชีวิต และเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ ด้วยลำพัง

จุดเด่นสำคัญของเรื่อง คือการที่กิกิไม่ได้มีพลังวิเศษมากมาย เธอทำได้เพียงบินและพูดคุยกับแมวเท่านั้น แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความสามารถในการบิน ทำให้เธอตัดสินใจเปิดกิจการ “บริการส่งของด้วยไม้กวาด” ในเมืองโคริโกะที่เงียบสงบ

หนึ่งในฉากที่ตราตรึงใจคือ การที่กิกิพบกับอุปสรรคครั้งใหญ่ เมื่อเธอสูญเสียความสามารถในการบินและไม่สามารถพูดคุยกับจิจิ แมวคู่ใจได้อีกต่อไป เหตุการณ์นี้ทำให้กิกิเผชิญหน้ากับความโดดเดี่ยวและความไม่มั่นใจในตัวเอง แต่ด้วยมิตรภาพและความช่วยเหลือจากเพื่อนใหม่ โดยเฉพาะ อุซูล่า จิตรกรสาวผู้มองโลกในแง่ดี ทำให้กิกิได้เรียนรู้ที่จะยอมรับความรู้สึกอ่อนแอของตัวเอง และค้นพบว่าบางครั้งการพักผ่อนและปล่อยวางก็เป็นสิ่งสำคัญในการเรียกพลังและความสามารถกลับคืนมา

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก: มินามิ ทาคายามะ (พากย์เป็น กิกิ/อุซูล่า), เรย์ ซากุมะ (พากย์เป็น จิจิ), คัปเปย์ ยามางุจิ (พากย์เป็น ทมโบะ), เก็นโกะ โมริ (พากย์เป็น โอโซโนะ), ฮิโรโกะ เซกิ (พากย์เป็น ฟุกุโอะ)
  • ประเภท: แอนิเมชัน, แฟนตาซี, ผจญภัย, ชีวิตประจำวัน (Coming-of-age)
  • ความยาว: 1 ชั่วโมง 43 นาที
  • กำหนดฉาย: 29 กรกฎาคม 1989
  • ช่องทางรับชม : Netflix

8. มิติวิญญาณมหัศจรรย์

“มิติวิญญาณมหัศจรรย์” หรือ Spirited Away เป็นผลงานชิ้นเอกของสตูดิโอจิบลิและผู้กำกับ ฮายาโอะ มิยาซากิ ที่จะพาคุณดำดิ่งสู่โลกแฟนตาซีอันน่าพิศวง เต็มไปด้วยจิตวิญญาณและสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ จิฮิโระ เด็กหญิงวัย 10 ขวบ ที่กำลังย้ายบ้านด้วยความไม่เต็มใจ ต้องติดอยู่ในโลกวิญญาณหลังจากที่พ่อแม่ของเธอถูกสาปให้กลายเป็นหมู

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวการผจญภัยและการเติบโตของจิฮิโระ จากเด็กที่ขี้แยและเอาแต่ใจ เธอต้องเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเอง ทำงานในโรงอาบน้ำของเหล่าทวยเทพและวิญญาณ ซึ่งบริหารโดยแม่มดผู้ทรงอำนาจและน่าเกรงขามอย่าง ยูบาบา เพื่อที่จะเอาชีวิตรอดและหาทางปลดปล่อยพ่อแม่ของเธอให้กลับคืนสู่ร่างเดิม

“มิติวิญญาณมหัศจรรย์” ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์แอนิเมชันสำหรับเด็กเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องราวที่สะท้อนประเด็นลึกซึ้งเกี่ยวกับการเติบโต การค้นหาตัวตน ความโลภ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และความสำคัญของชื่อและคำสัญญา ภาพที่สวยงาม บทเพลงที่ไพเราะ และตัวละครที่มีมิติ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงเป็นที่รักและถูกพูดถึงอย่างไม่เสื่อมคลาย ควรค่าแก่การรับชมซ้ำแล้วซ้ำอีก

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก (นักพากย์):
  • Daveigh Chase (ในบทจิฮิโระ/เซ็น), Jason Marsden (ในบทฮาคุ), Suzanne Pleshette (ในบทยูบาบา/เซนิกบา), David Ogden Stiers (ในบทคามะจิ), John Ratzenberger (ในบทผู้ช่วยผู้จัดการ), Lauren Holly (ในบทแม่ของจิฮิโระ)
  • ประเภท: อนิเมชัน, แฟนตาซี, ผจญภัย, ครอบครัว
  • ความยาว: 2 ชั่วโมง 5 นาที
  • กำหนดฉาย (ในญี่ปุ่น): ปี 2001
  • ช่องทางรับชม : Netflix

9. โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อปลาน้อยเจ้าหญิงแห่งท้องทะเลอยากเป็นมนุษย์? “โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย” (Ponyo) คือผลงานชิ้นเอกอีกชิ้นจากสตูดิโอจิบลิและผู้กำกับอัจฉริยะ ฮายาโอะ มิยาซากิ ที่จะพาคุณดำดิ่งสู่โลกใต้ทะเลอันน่าพิศวงและผูกพันกับเรื่องราวความรักความเมตตาที่อบอุ่นหัวใจ

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อโปเนียว เจ้าหญิงปลาทองที่อาศัยอยู่กับพ่อผู้เป็นจ้าวแห่งท้องทะเล ออกผจญภัยนอกอาณาจักร และได้พบกับโซสุเกะ เด็กชายวัย 5 ขวบ ผู้ใช้ชีวิตอยู่บนหน้าผาริมทะเล ความสัมพันธ์อันบริสุทธิ์ระหว่างเด็กน้อยกับปลาทองวิเศษได้เริ่มต้นขึ้น โซสุเกะตั้งชื่อให้ปลาทองตัวน้อยว่า “โปเนียว” และสัญญาว่าจะปกป้องเธอเสมอ

แต่แล้วพลังวิเศษของโปเนียวที่ได้รับจากของเหลวลึกลับที่โซสุเกะทำหกใส่ ก็ทำให้เธอกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ชั่วคราว เธอใฝ่ฝันที่จะเป็นมนุษย์อย่างเต็มตัวเพื่ออยู่กับโซสุเกะตลอดไป อย่างไรก็ตาม การกระทำของโปเนียวได้ก่อให้เกิดความปั่นป่วนในระบบนิเวศทางทะเล และนำมาซึ่งพายุยักษ์และน้ำท่วมโลกครั้งใหญ่ พ่อของโปเนียวพยายามพาเธอกลับคืนสู่ท้องทะเล แต่ความผูกพันระหว่างโปเนียวและโซสุเกะกลับแข็งแกร่งเกินกว่าสิ่งใดจะพรากจากกันได้

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก:
  • Yuria Nara (พากย์เสียงโปเนียว),
  • Hiroki Doi (พากย์เสียงโซสุเกะ),
  • George Tokoro (พากย์เสียงฟูจิโมโตะ),
  • Tomoko Yamaguchi (พากย์เสียงลิซ่า),
  • Kazuko Yoshiyuki (พากย์เสียงโยชิเอะ),
  • Akiko Yano (พากย์เสียงแกรนมา),
  • Fumiko Takeshita (พากย์เสียงโตเกะ),
  • Toshiyuki Nishida (พากย์เสียงคนขับรถ),
  • Shinichi Hatori (พากย์เสียงนักข่าว)
  • ประเภท: แอนิเมชั่น, แฟนตาซี, ผจญภัย
  • ความยาว: 101 นาที
  • กำหนดฉาย (ในญี่ปุ่น): 19 กรกฎาคม 2008
  • ช่องทางรับชม : Netflix

10. โทโทโร่เพื่อนรัก

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อครอบครัวคุซาคาเบะ อันประกอบด้วยคุณพ่อ ทัตสึโอะ, ซัตสึกิ ลูกสาวคนโตวัย 10 ขวบ และเมย์ ลูกสาวคนเล็กวัย 4 ขวบ ได้ย้ายจากเมืองใหญ่มาอยู่บ้านเก่าในชนบท เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับโรงพยาบาลที่คุณแม่กำลังรักษาตัวอยู่ บ้านหลังเก่าที่ดูเหมือนจะผุพังนี้กลับเต็มไปด้วยความลับและความน่าตื่นเต้น โดยเฉพาะเมื่อเมย์ได้พบกับสิ่งมีชีวิตประหลาดตัวน้อยที่พาเธอไปพบกับ “โทโทโร่” ยักษ์ขนปุยผู้พิทักษ์ป่าตัวใหญ่ใจดี และผองเพื่อนโทโทโร่ตัวจิ๋วที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าลึก

จุดเด่นของเรื่องคือการผสมผสานระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงกับจินตนาการได้อย่างลงตัว ความสัมพันธ์อันบริสุทธิ์ของสองพี่น้องซัตสึกิและเมย์ ที่เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติและค้นพบความมหัศจรรย์รอบตัว เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เรื่องราวนี้อบอุ่นและน่าประทับใจ ฉากสำคัญที่ยากจะลืมเลือนคือฉากที่ซัตสึกิและเมย์ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ท่ามกลางสายฝน รอรถประจำทางกับโทโทโร่ที่กางใบบัวเป็นร่ม และฉากที่พวกเธอได้นั่งรถแมว (Catbus) พาหนะสุดแปลกที่เคลื่อนที่ไปในอากาศได้อย่างอิสระ การผจญภัยเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงการเดินทางทางกายภาพ แต่ยังเป็นการเดินทางภายในจิตใจ ที่สอนให้เราเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ และค้นพบความสุขจากสิ่งเล็กๆ รอบตัว

“โทโทโร่เพื่อนรัก” ไม่ได้มีพล็อตเรื่องที่ซับซ้อนหรือตัวร้ายที่ต้องต่อสู้ แต่กลับเป็นการนำเสนอเรื่องราวชีวิตประจำวันที่เต็มไปด้วยความหวัง การรอคอย และความผูกพันของครอบครัว ผสมผสานกับความมหัศจรรย์ของสิ่งเหนือธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน มันคือภาพยนตร์ที่ชวนให้เราย้อนกลับไปคิดถึงวัยเด็ก ความเชื่อในสิ่งที่เรามองไม่เห็น และพลังของจินตนาการที่ทำให้โลกของเราน่าอยู่ยิ่งขึ้น

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
  • นักแสดงหลัก:
  • ฮิโตมิ ทาคากิ (Hitomi Takagi) ให้เสียงพากย์เป็น ซัตสึกิ (Satsuki)
  • โนริโกะ ฮิดากะ (Noriko Hidaka) ให้เสียงพากย์เป็น ซัตสึกิ (Satsuki) (บทพูด)
  • ชิกะ ซากาโมโตะ (Chika Sakamoto) ให้เสียงพากย์เป็น เมย์ (Mei)
  • ชิเกรุ โอซึกะ (Shigeru Ohsuka) ให้เสียงพากย์เป็น ทัตสึโอะ คุซาคาเบะ (Tatsuo Kusakabe)
  • ซูมิ ชิมาโมโตะ (Sumi Shimamoto) ให้เสียงพากย์เป็น ยาซุโกะ คุซาคาเบะ (Yasuko Kusakabe)
  • ฮิโตชิ ทากากิ (Hitoshi Takagi) ให้เสียงพากย์เป็น โทโทโร่ (Totoro)
  • ประเภท: อนิเมชั่น, แฟนตาซี, ผจญภัย, ชีวิตประจำวัน, ครอบครัว
  • ความยาว: 86 นาที
  • กำหนดฉาย: 16 เมษายน 1988
  • ช่องทางรับชม : Netflix

สรุปแล้ว หนังการ์ตูน อนิเมชั่น ไม่ใช่แค่สำหรับเด็กๆ เท่านั้น แต่เป็นงานศิลปะแขนงหนึ่งที่เข้าถึงใจคนได้ทุกเพศทุกวัย ด้วยความสามารถในการเล่าเรื่องที่ไร้ขีดจำกัด การสร้างสรรค์ตัวละครที่น่าจดจำ และการนำเสนอข้อคิดที่ลึกซึ้ง ทำให้มันยังคงเป็นสื่อบันเทิงที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมสมัยใหม่อย่างที่เราเห็นกัน


ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปแค่ไหน เทคโนโลยีจะล้ำหน้าไปไกลเท่าไหร่ เสน่ห์ของ หนังการ์ตูน อนิเมชั่น ก็ยังคงอยู่ และจะยังคงพัฒนาต่อไปเพื่อสร้างความสุข ความบันเทิง และแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมทั่วโลกเสมอ เราเชื่อว่าอนิเมชั่นดีๆ สักเรื่องจะอยู่กับคุณไปอีกนานแสนนานในความทรงจำ


แชร์บทความนี้