
ถ้าพูดถึงความบันเทิงสุดสัปดาห์ หรือช่วงเวลาอยากผ่อนคลายสบายๆ เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง ซีรีส์ฝรั่ง เป็นอันดับต้นๆ เลยใช่ไหมล่ะคะ? ไม่ว่าจะเป็นแนวแอคชั่นสุดมันส์ สืบสวนสอบสวนชวนลุ้นระทึก หรือโรแมนติกคอมเมดี้ที่ดูแล้วใจฟู ซีรีส์ฝรั่ง ก็มีครบทุกรสชาติจริงๆ ทำให้เราเลือกได้ตามอารมณ์ในแต่ละวันเลย
อะไรที่ทำให้ ซีรีส์ฝรั่ง กลายเป็นขวัญใจคนทั่วโลกได้ขนาดนี้? คงเป็นเพราะพล็อตเรื่องที่คาดเดายาก ตัวละครที่มีมิติ และงานโปรดักชั่นที่อลังการไม่แพ้ภาพยนตร์เลยค่ะ แถมยังมีเรื่องราวหลากหลายให้เลือกชมไม่มีเบื่อ ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนซีรีส์สายไหน ก็รับรองว่าต้องเจอเรื่องที่โดนใจแน่นอน
สำหรับใครที่กำลังมองหา ซีรีส์ฝรั่ง เรื่องใหม่ๆ มาเติมเต็มคลังความบันเทิง หรืออยากจะเริ่มดูซีรีส์ฝรั่งแต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี บอกเลยว่าคุณมาถูกที่แล้วค่ะ เพราะบทความนี้เราจะพาไปสำรวจโลกของซีรีส์ฝรั่งที่รับรองว่าดูแล้วติดหนึบจนวางไม่ลงเลยล่ะ!
1. jack reacher ยอดคนสืบระห่ำ
เคยสงสัยไหมว่าถ้าคนคนหนึ่งที่มีทั้งความฉลาดเฉลียว พละกำลังมหาศาล และเซนส์ในการสืบสวนที่เหนือชั้น จะเลือกใช้ชีวิตอย่างไร? สำหรับแจ็ค รีชเชอร์ อดีตสารวัตรทหารมือฉมัง เขาเลือกที่จะใช้ชีวิตพเนจรไปเรื่อยๆ ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีสิ่งผูกมัดใดๆ นอกจากเสื้อผ้าไม่กี่ชุดติดตัว แต่โชคชะตากลับเล่นตลก พาเขาไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมที่ซับซ้อนและอันตรายถึงชีวิตอยู่เสมอ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวสุดระห่ำในซีรีส์ “Jack Reacher: ยอดคนสืบระห่ำ”
ฤดูกาลที่ 1: การมาเยือนเมืองมาร ณ มาร์เกรฟ
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อรีชเชอร์เดินทางมาถึงเมืองเล็กๆ ที่ชื่อมาร์เกรฟ รัฐจอร์เจีย ด้วยความตั้งใจที่จะเยี่ยมชมบ้านเกิดของนักดนตรีบลูส์คนโปรด แต่ยังไม่ทันจะได้ซึมซับบรรยากาศความสงบ เขากลับถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรมทันทีที่ก้าวเท้าลงจากรถบัส! ใช่แล้วครับ เขาคือแพะรับบาปคนแรกในคดีฆาตกรรมโหดที่ดูเหมือนจะเกี่ยวพันกับขบวนการคอรัปชันระดับสูงในเมืองนี้
จุดเด่นที่ทำให้เรื่องราวในฤดูกาลแรกน่าติดตามคือการที่รีชเชอร์ต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองไปพร้อมๆ กับการไขปริศนาคดีฆาตกรรมที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่ได้มาคนเดียว แต่ได้ร่วมมือกับตำรวจหญิงใจแกร่งอย่างโรสโค่ คอนคลิน และนักสืบพนักงานสอบสวนหน้าใหม่ผู้ฉลาดเฉลียวอย่างฟินเลย์ เคมีของทั้งสามคนคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ซีรีส์มีชีวิตชีวา การสืบสวนของรีชเชอร์ไม่ได้พึ่งพาเพียงพละกำลังเท่านั้น แต่ยังใช้สมองอันปราดเปรื่องในการเชื่อมโยงข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ที่คนอื่นมองข้าม ให้กลายเป็นภาพใหญ่ของความจริงที่น่าตกใจ
ฤดูกาลที่ 2: แกะรอยปริศนาจากอดีต
ในฤดูกาลที่สอง รีชเชอร์ต้องกลับมาเผชิญหน้ากับอดีตของตัวเองอีกครั้ง เมื่อสมาชิกในหน่วยสืบสวนพิเศษของสารวัตรทหารที่เขาเคยเป็นหัวหน้า ถูกสังหารอย่างเป็นปริศนาทีละคน เรื่องราวจะเข้มข้นขึ้นเมื่อเขาต้องรวบรวมอดีตเพื่อนร่วมทีมที่เหลือรอด เพื่อตามล่าหาฆาตกรที่ดูเหมือนจะรู้จักวิธีการทำงานของพวกเขาเป็นอย่างดี
ความน่าสนใจในฤดูกาลนี้คือการได้เห็นมิติที่ลึกซึ้งขึ้นของรีชเชอร์ เขาไม่ได้เป็นเพียงเครื่องจักรสังหาร แต่เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพและความภักดีต่อทีม ฉากการระลึกความหลังถึงอดีตที่พวกเขาเคยร่วมกันต่อสู้ คือส่วนที่ทำให้ตัวละครมีมิติและน่าเอาใจช่วยมากขึ้น

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.primevideo.com/
- นักแสดงหลัก: อลัน ริตช์สัน, มาเรีย สเตน, มาลคอล์ม กู๊ดวิน, วิลลา ฟิตซ์เจอรัลด์, ฌอน ไซพส์
- ประเภท: แอ็คชั่น, อาชญากรรม, ระทึกขวัญ
- จำนวนตอน:
- ฤดูกาลที่ 1: 8 ตอน
- ฤดูกาลที่ 2: 8 ตอน
- กำหนดฉาย:
- ฤดูกาลที่ 1: 4 กุมภาพันธ์ 2022
- ฤดูกาลที่ 2: 15 ธันวาคม 2023
- ช่องทางรับชม: Prime Video
2. Wednesday เวนส์เดย์ แอดดัมส์
ถ้าคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่ผสมผสานความดาร์ก ความตลกร้าย และปริศนาชวนติดตามได้อย่างลงตัว “Wednesday เวนส์เดย์ แอดดัมส์” คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด! ซีรีส์เรื่องนี้จะพาคุณดำดิ่งสู่โลกของ Wednesday Addams ลูกสาวคนโตของตระกูล Addams ที่เราคุ้นเคยกันดี แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้อยู่แค่ในคฤหาสน์เก่าแก่ที่คุ้นตา เธอถูกส่งตัวมายัง โรงเรียนเนเวอร์มอร์ (Nevermore Academy) โรงเรียนสุดแปลกสำหรับเด็กที่มีพลังพิเศษและเป็นที่รวมตัวของเหล่าสิ่งมีชีวิตประหลาด ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หมาป่า, แวมไพร์, ไซเรน หรือกอร์กอน
เรื่องราวจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Wednesday ถูกไล่ออกจากโรงเรียนเดิมถึง 8 แห่ง! ด้วยเหตุผลสุดแหวกแนวที่ไม่พ้นการแก้แค้นสุดโต่ง และด้วยความที่เธอไม่เหมือนใคร ไม่ชอบสังคม ไม่ชอบแสดงอารมณ์ และมีอารมณ์ขันที่มืดหม่นสุดๆ ทำให้พ่อแม่ของเธออย่าง Morticia และ Gomez Addams ตัดสินใจส่งเธอมายัง Nevermore Academy ซึ่งเป็นโรงเรียนที่พวกเขาเองก็เคยเรียนมาก่อน
“Wednesday เวนส์เดย์ แอดดัมส์” ไม่ใช่แค่ซีรีส์วัยรุ่นทั่วไป แต่เป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความลึกลับ การหักมุม และข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับการยอมรับความแตกต่าง การค้นหาตัวเอง และการเผชิญหน้ากับความจริงที่อาจจะไม่สวยงามเสมอไป ด้วยบทบาทการแสดงที่โดดเด่นของ Jenna Ortega และการกำกับที่พิถีพิถันของ Tim Burton ซีรีส์เรื่องนี้จึงเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ไม่ควรพลาดสำหรับแฟนๆ ตระกูล Addams และผู้ที่ชื่นชอบแนวสืบสวนสอบสวนผสมแฟนตาซี

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
- นักแสดงหลัก: Jenna Ortega, Gwendoline Christie, Riki Lindhome, Jamie McShane, Hunter Doohan, Percy Hynes White, Emma Myers, Joy Sunday, Georgie Farmer, Naomi J. Ogawa, Christina Ricci, Catherine Zeta-Jones, Luis Guzmán, Fred Armisen
- ประเภท: แฟนตาซี, ตลกร้าย, วัยรุ่น, ลึกลับ, เหนือธรรมชาติ, การสืบสวน
- จำนวนตอน: 8 ตอน
- กำหนดฉาย: 23 พฤศจิกายน 2022
- ช่องทางรับชม : Netflix
3. The Day of the Jackal ล่าระห่ำ ฝ่าเมืองเดือด
“The Day of the Jackal ล่าระห่ำ ฝ่าเมืองเดือด” เป็นซีรีส์ทริลเลอร์สายลับที่อัดแน่นด้วยความตื่นเต้นและระทึกขวัญ ตั้งแต่ต้นจนจบ ซีรีส์เรื่องนี้เป็นการนำนวนิยายคลาสสิกของ Frederick Forsyth กลับมาตีความใหม่ได้อย่างน่าสนใจและร่วมสมัย โดยเล่าเรื่องราวการไล่ล่ามือสังหารมือฉมังระดับโลกที่รู้จักกันในนาม “แจ็กเกิล” ซึ่งได้รับมอบหมายให้สังหารประธานาธิบดีฝรั่งเศส ชาร์ลส์ เดอ โกลล์
หัวใจสำคัญของเรื่องอยู่ที่การปะทะกันทางปัญญาอันดุเดือดระหว่างสองขั้ว: ฝั่งหนึ่งคือ แจ็กเกิล (รับบทโดย Eddie Redmayne) ชายผู้ไร้ตัวตน ไร้ความรู้สึก และเป็นนักฆ่ามืออาชีพที่วางแผนการลอบสังหารไว้อย่างแยบยลและไร้ที่ติ เขาราวกับเงาที่เคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบ พร้อมที่จะลงมือเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม อีกฝั่งหนึ่งคือ โคล้ด เลอเบล (รับบทโดย Lashana Lynch) เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองผู้เปี่ยมไปด้วยไหวพริบและมุ่งมั่น เธอเป็นเพียงคนเดียวที่สัมผัสได้ถึงภัยคุกคามที่กำลังคืบคลานเข้ามา และต้องแข่งกับเวลาเพื่อหยุดยั้งแผนการอันชั่วร้ายนี้ให้ได้
“The Day of the Jackal ล่าระห่ำ ฝ่าเมืองเดือด” ไม่ใช่แค่ซีรีส์แอ็คชั่นทั่วไป แต่เป็นงานที่ผสมผสานความตื่นเต้น การสืบสวนสอบสวน และการต่อสู้ทางปัญญาได้อย่างลงตัว มันจะทำให้คุณลุ้นระทึกไปกับการแข่งกับเวลา เพื่อหยุดยั้งแผนการอันชั่วร้ายที่อาจเปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล ถ้าคุณชอบซีรีส์สายลับที่ฉลาด ลุ้นระทึก และเต็มไปด้วยปริศนา นี่คือเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก :https://www.hbomax.com/
- นักแสดงหลัก: Eddie Redmayne, Lashana Lynch, Charles Dance, Richard Dormer, Úrsula Corberó
- ประเภท: ทริลเลอร์, ดราม่า, สายลับ, อาชญากรรม
- จำนวนตอน: 10 ตอน
- กำหนดฉาย: กำหนดฉายอย่างเป็นทางการคือ 7 พฤศจิกายน 2024
- ช่องทางรับชม : hbomax
4. The White Lotus
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับทริปพักร้อนที่คุณจะไม่มีวันลืม…แต่ไม่ใช่ในทางที่ดี! “The White Lotus” ซีรีส์ดราม่าคอมเมดี้เสียดสีสังคมที่มาแรงจาก HBO จะพาคุณดำดิ่งสู่โลกแห่งความหรูหรา วุ่นวาย และความลับดำมืดที่ซุกซ่อนอยู่ใต้รอยยิ้มจอมปลอมของผู้มาเยือนโรงแรมสุดหรู
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่รีสอร์ตหรู “The White Lotus” สาขาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฮาวาย หรือซิซิลี ที่ซึ่งแขกผู้มาเยือนจากหลากหลายชนชั้นและภูมิหลังต่างพากันมาแสวงหาความสุขและหลีกหนีจากชีวิตจริง ทว่าเบื้องหลังความงดงามของชายหาด ทะเลสีคราม และบริการระดับห้าดาว กลับเต็มไปด้วยความสัมพันธ์อันซับซ้อน ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และพฤติกรรมสุดประหลาดที่ค่อยๆ เผยออกมาทีละน้อย
ซีรีส์จะพาเราไปติดตามชีวิตของกลุ่มตัวละครหลักที่เข้ามาพัวพันกัน ไม่ว่าจะเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาชีวิตคู่, ครอบครัวมหาเศรษฐีที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง, หญิงสาวผู้โดดเดี่ยวที่กำลังตามหาความรัก, หรือแม้แต่พนักงานโรงแรมที่ต้องแบกรับความคาดหวังและความกดดันจากแขกผู้มีอิทธิพล

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.hbomax.com/
- นักแสดงหลัก:
- ซีซัน 1: Murray Bartlett, Connie Britton, Jennifer Coolidge, Alexandra Daddario, Fred Hechinger, Jake Lacy, Brittany O’Grady, Natasha Rothwell, Sydney Sweeney, Steve Zahn
- ซีซัน 2: F. Murray Abraham, Jennifer Coolidge, Adam DiMarco, Meghann Fahy, Jon Gries, Beatrice Grannò, Sabrina Impacciatore, Michael Imperioli, Theo James, Aubrey Plaza, Haley Lu Richardson, Will Sharpe, Valentina Spina, Simona Tabasco, Leo Woodall
- ซีซัน 3 (กำลังจะมา): Leslie Bibb, Carrie Coon, Francesca Corney, Nicholas Duvernay, Arnas Fedaravičius, Christian Friedel, Walton Goggins, Sarah Catherine Hook, Maika Monroe, Morgana O’Reilly, Lek Patravadi, Shalini Peiris, Parker Posey, Natasha Rothwell, Patrick Schwarzenegger, Aimee Lou Wood
- ประเภท: ดราม่า, คอมเมดี้, เสียดสีสังคม, ระทึกขวัญ (แฝง)
- จำนวนตอน:
- ซีซัน 1: 6 ตอน
- ซีซัน 2: 7 ตอน
- ซีซัน 3: กำลังถ่ายทำ (ยังไม่ระบุจำนวนตอนที่แน่นอน)
- กำหนดฉาย:
- ซีซัน 1: 11 กรกฎาคม 2021
- ซีซัน 2: 30 ตุลาคม 2022
- ซีซัน 3: คาดว่าจะฉายในปี 2025
- ช่องทางรับชม: HBO Go, HBO Max
5. บริดเจอร์ตัน: วังวนรัก เกมไฮโซ
“บริดเจอร์ตัน: วังวนรัก เกมไฮโซ” (Bridgerton) คือซีรีส์พีเรียดโรแมนติกที่พาเราย้อนเวลากลับไปสู่กรุงลอนดอนในยุครีเจนซี่ ที่ซึ่งกฎเกณฑ์ทางสังคม ความคาดหวัง และความปรารถนาซ่อนเร้นปะปนอยู่ในทุกย่างก้าว ซีรีส์เรื่องนี้สร้างจากนวนิยายขายดีของจูเลีย ควินน์ บอกเล่าเรื่องราวของตระกูลบริดเจอร์ตัน อันประกอบด้วยพี่น้องแปดคนผู้เปี่ยมเสน่ห์ ที่ต้องฝ่าฟันวังวนแห่งการจับคู่ การซุบซิบนินทา และการค้นหาความรักที่แท้จริงในสังคมชนชั้นสูงอันแสนจะจุกจิก
จุดเด่นของซีรีส์อยู่ที่การนำเสนอเรื่องราวความรักที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความรักแรกพบที่แสนโรแมนติก ความรักที่ค่อยๆ ก่อตัวจากมิตรภาพ หรือแม้แต่ความรักที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคทางสังคมและส่วนตัว ทุกความสัมพันธ์ถูกถักทอเข้ากับฉากหลังของงานเต้นรำสุดหรูหรา การสังสรรค์ในสวน และการเปิดตัวสุภาพสตรีในสังคม ซึ่งล้วนเป็นเวทีให้ตัวละครได้แสดงออกถึงความปรารถนาที่ซ่อนเร้น
“บริดเจอร์ตัน” ไม่ใช่แค่ซีรีส์โรแมนติกทั่วไป แต่เป็นการพาผู้ชมไปสัมผัสกับความงามของยุคสมัย เสื้อผ้าที่วิจิตรบรรจง และดนตรีประกอบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเพลงป๊อปสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีเสน่ห์และแตกต่างไม่เหมือนใคร เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการผจญภัยในวังวนแห่งความรักและเกมไฮโซที่จะทำให้คุณถอนตัวไม่ขึ้น!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
- นักแสดงหลัก: Regé-Jean Page, Phoebe Dynevor, Jonathan Bailey, Simone Ashley, Nicola Coughlan, Luke Newton, Golda Rosheuvel, Adjoa Andoh, Polly Walker, Ruth Gemmell, Lorraine Ashbourne, Harriet Cains, Bessie Carter, Florence Hunt, Will Tilston, Luke Thompson, Rupert Young
- ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก, พีเรียด, อิงประวัติศาสตร์ (นิยาย)
- จำนวนตอน:
- ซีซัน 1: 8 ตอน
- ซีซัน 2: 8 ตอน
- ซีซัน 3: ส่วนที่ 1: 4 ตอน (ส่วนที่ 2 จะฉายในวันที่ 13 มิถุนายน 2024)
- กำหนดฉาย:
- ซีซัน 1: 25 ธันวาคม 2020
- ซีซัน 2: 25 มีนาคม 2022
- ซีซัน 3: ส่วนที่ 1: 16 พฤษภาคม 2024, ส่วนที่ 2: 13 มิถุนายน 2024
- ช่องทางรับชม : Netflix
6. Young royals เจ้าชาย
คุณเคยสงสัยไหมว่าชีวิตในวังหลวงนั้นสวยงามเสมอไปอย่างที่เราจินตนาการหรือไม่? “Young Royals” ซีรีส์ดราม่าวัยรุ่นจากสวีเดนจะพาคุณไปค้นพบอีกด้านหนึ่งของชีวิตราชวงศ์ ที่ไม่ได้มีแต่ความหรูหรา หากแต่เต็มไปด้วยแรงกดดัน ความคาดหวัง และหัวใจที่เปราะบางของ “เจ้าชายวิลเฮล์ม” รัชทายาทลำดับที่สองของสวีเดน ที่ต้องเผชิญหน้ากับโชคชะตาที่พลิกผันและค้นหาตัวตนที่แท้จริง
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเจ้าชายวิลเฮล์มถูกส่งตัวเข้าโรงเรียนประจำชื่อดังอย่าง ฮิลเลอร์สก้า หลังก่อเรื่องอื้อฉาว ด้วยความหวังว่าจะช่วยกอบกู้ภาพลักษณ์ของราชวงศ์และปรับปรุงพฤติกรรม แต่ที่นั่นเอง ชีวิตของวิลเฮล์มก็ก้าวเข้าสู่บทใหม่ที่ไม่อาจย้อนกลับได้ ที่ฮิลเลอร์สก้า เขาได้พบกับ “ไซม่อน” นักเรียนทุนที่มีฐานะต่างกันลิบลับ แต่ด้วยความจริงใจและความเข้าใจ ไซม่อนได้เข้ามาเติมเต็มชีวิตที่อ้างว้างของวิลเฮล์ม และจุดประกายความรู้สึกบางอย่างที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
“Young Royals” เป็นซีรีส์ที่ไม่ใช่แค่เรื่องราวความรักของวัยรุ่น แต่เป็นการสำรวจชีวิตในรั้ววังที่ซับซ้อน ความกดดันทางสังคม และการต่อสู้เพื่อเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง หากคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่สะท้อนประเด็นสังคมได้อย่างลึกซึ้ง พร้อมกับเรื่องราวความรักที่กินใจและน่าติดตาม “Young Royals” คือสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
- นักแสดงหลัก: Edvin Ryding, Omar Rudberg, Malte Gårdinger, Frida Argento, Nikita Uggla
- ประเภท: ดราม่า, วัยรุ่น, LGBTQ+, โรแมนติก
- จำนวนตอน:
- ซีซัน 1: 6 ตอน
- ซีซัน 2: 6 ตอน
- ซีซัน 3: 6 ตอน
- กำหนดฉาย:
- ซีซัน 1: 1 กรกฎาคม 2021
- ซีซัน 2: 1 พฤศจิกายน 2022
- ซีซัน 3: 11 มีนาคม 2024 (พาร์ท 1), 18 มีนาคม 2024 (พาร์ท 2)
- ช่องทางรับชม : Netflix
7. Pulse (2025) ชีพจรสื่อใจ
ลองจินตนาการดูสิว่า… จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณหมอที่อุทิศชีวิตให้กับการช่วยชีวิตผู้ป่วย ต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่า “ชีวิต” ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงลมหายใจสุดท้าย แต่ยังคงส่งต่อ “ชีพจร” ของเรื่องราวที่ยังไม่ถูกสะสาง “Pulse (2025) ชีพจรสื่อใจ” คือซีรีส์ดราม่าทางการแพทย์ที่จะพาคุณดำดิ่งสู่โลกที่วิทยาศาสตร์และเหนือธรรมชาติมาบรรจบกันได้อย่างน่าทึ่ง
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่ “โรงพยาบาลไบร์ทวิว” ศูนย์รวมแพทย์ชั้นนำของประเทศ ที่ซึ่ง “หมอเอเลนอร์ วานซ์” ศัลยแพทย์หัวใจและหลอดเลือดมือฉมัง ผู้ยึดมั่นในหลักการทางวิทยาศาสตร์อย่างเคร่งครัด ได้ค้นพบปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่ทำให้โลกของเธอต้องสั่นคลอน ทุกครั้งที่ผู้ป่วยเสียชีวิตบนเตียงผ่าตัด หรือในห้องฉุกเฉิน หมอเอเลนอร์จะสัมผัสได้ถึง “คลื่นความรู้สึก” หรือ “ชีพจร” ที่หลงเหลืออยู่จากผู้ตาย คลื่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่ความทรงจำ แต่คือ “เรื่องราว” ที่ยังไม่ได้ถูกแก้ไข ความจริงที่ยังไม่ได้เปิดเผย หรือแม้กระทั่งคำร่ำลาที่ยังไม่ได้เอ่ย
“Pulse (2025) ชีพจรสื่อใจ” ไม่ใช่แค่ซีรีส์ที่จะพาคุณไปเรียนรู้เรื่องราวทางการแพทย์ แต่จะพาคุณสำรวจความหมายของชีวิต ความตาย และการเชื่อมโยงกันของจิตวิญญาณที่อยู่เหนือความเข้าใจ ทุกชีพจรที่เต้น คือเรื่องราวที่รอการเปิดเผย คุณพร้อมที่จะสัมผัสกับ “ชีพจร” เหล่านี้แล้วหรือยัง?

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
- นักแสดงหลัก: แอนนา เคนดริก, แดเนียล แด คิม, โอลิเวีย ไวลด์, ลุค อีแวนส์, โซเฟีย บูช
- ประเภท: ดราม่า, การแพทย์, ลึกลับ, เหนือธรรมชาติ
- จำนวนตอน: 10 ตอน
- กำหนดฉาย: ปี 2025
- ช่องทางรับชม : Netflix
8. The Residence (2025) ฆาตกรรมทำเนียบฉาว
“The Residence” ไม่ใช่แค่ซีรีส์ฆาตกรรมธรรมดา แต่เป็นการผสมผสานระหว่างปริศนาอาชญากรรมเข้มข้นกับการเสียดสีสังคมการเมืองได้อย่างลงตัว เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ “แพ็ตตี้ นามูระ” นักสืบหญิงผู้เปี่ยมไปด้วยไหวพริบจากกรมตำรวจนครบาล ได้รับมอบหมายให้เข้ามาสืบสวนคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงของทำเนียบขาว ซึ่งเหยื่อคือหนึ่งในแขกคนสำคัญของงาน แต่ยิ่งสืบสวนลึกลงไปเท่าไหร่ ความจริงที่ซ่อนอยู่ภายใต้พรมแดงของทำเนียบขาวก็ยิ่งเผยออกมามากขึ้นเท่านั้น
ซีรีส์เรื่องนี้จะพาคุณไปสำรวจตัวละครหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่พยายามปกปิดความลับดำมืด นักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ หรือแม้แต่เหล่าพนักงานในทำเนียบขาวที่อาจเป็นผู้เห็นเหตุการณ์หรือผู้สมรู้ร่วมคิด ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ผลประโยชน์ทับซ้อน และการหักหลังกลายเป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนเรื่องราว ทำให้ผู้ชมต้องตั้งคำถามว่าใครคือฆาตกรตัวจริง และทำไมคดีนี้ถึงได้ซับซ้อนกว่าที่คิด
ฉากสำคัญ ที่เป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องคือการที่แพ็ตตี้ค้นพบหลักฐานชิ้นสำคัญที่เชื่อมโยงคดีเข้ากับบุคคลที่ไม่คาดคิด ซึ่งนำไปสู่การเปิดโปงเครือข่ายความลับที่ฝังรากลึกมานานหลายปี ฉากนี้จะทำให้คุณตื่นเต้นและลุ้นระทึกไปกับการคลี่คลายปมปริศนาทีละน้อย และที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการที่ซีรีส์ไม่ได้นำเสนอแค่การสืบสวนสอบสวน แต่ยังฉายภาพชีวิตประจำวันของเหล่าคนที่ทำงานในทำเนียบขาว ทำให้เราได้เห็นมุมมองที่แตกต่างออกไปจากที่เราเคยรับรู้
“The Residence” ไม่เพียงแต่จะมอบความบันเทิงจากพล็อตเรื่องที่น่าติดตาม แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงประเด็นทางสังคมและการเมืองที่น่าสนใจ ชวนให้ผู้ชมได้คิดตามว่าเบื้องหลังของอำนาจที่ยิ่งใหญ่นั้นซ่อนความมืดมิดอะไรไว้บ้าง ใครคือผู้ที่กุมความลับ และใครคือผู้ที่ต้องชดใช้ในท้ายที่สุด เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการดำดิ่งสู่โลกของ “The Residence” ที่เต็มไปด้วยความลับ ปริศนา และการหักมุมที่คาดไม่ถึง!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/th/
- นักแสดงหลัก: Uzo Aduba, Randall Park, Kylie Kinnaman, Jeremy Shamos, Andre Braugher, Edwina Findley, Molly Griggs, Al Franken, Chris Diamantopoulos, Xola Malik, Diedrich Bader, E.J. Bonilla, George Akram, Jason Wiles, Ken Marino
- ประเภท: ดราม่า, ลึกลับ, อาชญากรรม
- จำนวนตอน: 8 ตอน
- กำหนดฉาย: 2025
- ช่องทางรับชม : Netflix
9. Goosebumps (2023)
ถ้าคุณเป็นแฟนหนังสือ “Goosebumps” ของ R.L. Stine หรือชื่นชอบซีรีส์แนวสยองขวัญปนตลกที่ไม่ได้มีแต่ความน่ากลัว แต่ยังแฝงไปด้วยเรื่องราวสุดเข้มข้นที่ชวนให้ติดตาม “Goosebumps (2023)” คือสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด! ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงการนำเรื่องราวเก่ามาเล่าใหม่ แต่เป็นการสร้างจักรวาล Goosebumps ที่สดใหม่และน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อกลุ่มวัยรุ่นห้าคนในเมืองพอร์ตลอร์ก รัฐโอเรกอน ต้องเผชิญกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติสุดประหลาดหลังจากปาร์ตี้ฮาโลวีนที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง พวกเขาแต่ละคนต้องเผชิญกับคำสาปที่โยงใยกับวิญญาณของ แฮโรลด์ บิดเดิล เด็กหนุ่มผู้เสียชีวิตอย่างปริศนาเมื่อสามสิบปีก่อน การตายของแฮโรลด์ไม่ได้เป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวลึกลับที่ซับซ้อนกว่าที่คิด
นอกจากความน่ากลัวและลึกลับ ซีรีส์ยังมีอารมณ์ขันที่สอดแทรกเข้ามาอย่างลงตัว ทำให้เรื่องราวไม่ตึงเครียดจนเกินไป และยังเน้นเรื่องราวของมิตรภาพ ความสัมพันธ์ และการค้นหาตัวเองของวัยรุ่น ทำให้ “Goosebumps (2023)” ไม่ได้เป็นแค่ซีรีส์สยองขวัญ แต่เป็นเรื่องราวที่เข้าถึงใจและชวนให้ติดตามจนจบ
เตรียมตัวให้พร้อม แล้วดำดิ่งสู่โลกของ “Goosebumps” ที่จะทำให้คุณขนลุกไปพร้อมกับความตื่นเต้น และพบกับบทสรุปของเรื่องราวที่จะทำให้คุณต้องอ้าปากค้าง!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.hotstar.com/
- นักแสดงหลัก: Zack Morris, Isa Briones, Miles McKenna, Ana Yi Puig, Will Price, Justin Long, Rachael Harris
- ประเภท: สยองขวัญ, ตลก, ลึกลับ, ดราม่าวัยรุ่น
- จำนวนตอน: 10 ตอน
- กำหนดฉาย: 13 ตุลาคม 2023 (ในต่างประเทศ)
- ช่องทางรับชม: Disney+
10. The Last of Us
ลองจินตนาการถึงโลกที่ถูกกลืนกินด้วยหายนะ… ไม่ใช่ไวรัสที่ทำให้คนกลายเป็นซอมบี้ไร้สติ แต่เป็น “เชื้อรา” ที่แพร่กระจายและควบคุมร่างกายมนุษย์ให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสยดสยองและหิวโหยที่เรียกว่า “ผู้ติดเชื้อ” (Infected) นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวอันเข้มข้นในซีรีส์ “The Last of Us” ที่จะพาคุณดำดิ่งสู่โลกที่ล่มสลาย และสัมผัสกับความหมายของการเอาชีวิตรอด ความหวัง และความผูกพันของมนุษย์
เรื่องราวจะเริ่มต้นขึ้น 20 ปีหลังจากการระบาดครั้งใหญ่ เราจะได้พบกับ “โจเอล” (Joel) ชายวัยกลางคนที่เคยสูญเสียลูกสาวไปในวันแรกของการระบาด เขาใช้ชีวิตในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายและความสิ้นหวัง ทำงานค้าของเถื่อนและพยายามเอาชีวิตรอดไปวันๆ จนกระทั่งโชคชะตาเล่นตลก เมื่อเขาได้รับภารกิจให้พาเด็กสาววัย 14 ปี นามว่า “เอลลี่” (Ellie) เดินทางข้ามประเทศไปยังฐานของกลุ่ม “หิ่งห้อย” (Fireflies) ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลและพยายามหาทางรักษาโรคระบาดนี้
แต่ทำไมต้องเป็นเอลลี่? นี่คือจุดเปลี่ยนที่น่าตื่นเต้น! เพราะเอลลี่ไม่เหมือนใคร เธอมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อรา เธอถูกกัดแล้วแต่ไม่กลายร่าง ซึ่งนั่นทำให้เธออาจเป็นความหวังเดียวของมนุษยชาติในการค้นคว้าวัคซีน นี่คือภารกิจที่ใหญ่หลวงและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.hbomax.com/
- นักแสดงหลัก: Pedro Pascal, Bella Ramsey, Gabriel Luna, Anna Torv, Merle Dandridge, Nick Offerman, Melanie Lynskey, Storm Reid, Lamar Johnson, Keivonn Woodard
- ประเภท: ดราม่า, แอ็คชั่น, ระทึกขวัญ, โพสต์-อะโพคาลิปติก, ผจญภัย
- จำนวนตอน: ซีซัน 1 มี 9 ตอน (และได้รับการยืนยันซีซัน 2 แล้ว)
- กำหนดฉาย: เริ่มฉายตอนแรกเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2023 (สำหรับซีซัน 1)
- ช่องทางรับชม: HBO Go
เป็นยังไงกันบ้างคะกับโลกของซีรีส์ฝรั่งที่เราพาไปสำรวจกัน จะเห็นได้ว่าซีรีส์ฝรั่งไม่ได้มีแค่ความบันเทิงอย่างเดียว แต่ยังสอดแทรกข้อคิด วัฒนธรรม และมุมมองใหม่ๆ ที่ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างไปด้วย ใครที่ยังไม่เคยลองดูซีรีส์ฝรั่งดีๆ สักเรื่อง ถือว่าพลาดมากเลยนะ!
หวังว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางให้ทุกคนได้ค้นพบซีรีส์ฝรั่งเรื่องโปรดเรื่องใหม่กันนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเก่าในตำนาน หรือซีรีส์ใหม่แกะกล่องที่กำลังเป็นกระแส อย่ารอช้า! ลองเปิดใจให้ซีรีส์ฝรั่ง แล้วคุณจะรู้ว่าความสุขจากการดูซีรีส์มันดีต่อใจแค่ไหนค่ะ