
เปิดไฟสว่างจ้า ปิดประตูแน่นหนา แล้วหยิบผ้าห่มมาคลุมโปงให้เรียบร้อย เพราะวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง หนังผี! ไม่ว่าคุณจะเป็นสายหลอนตัวยงที่ชอบความตื่นเต้น หรือเป็นคนขวัญอ่อนที่แค่เห็นปกก็ขนลุกซู่ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หนังผี คือหนึ่งในความบันเทิงที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ลองนึกถึงคืนวันศุกร์ที่รวมตัวกับเพื่อนๆ เปิดแผ่น (หรือสมัยนี้ก็สตรีมมิ่ง) แล้วเตรียมใจเต้นระทึกไปพร้อมๆ กันสิ มันเป็นโมเมนต์ที่ทั้งสนุก ทั้งน่ากลัว จนบางทีก็แอบหลอนเก็บไปฝันเลยนะ
จากตำนานผีพื้นบ้านที่เล่าขานกันมาแต่โบราณ สู่เรื่องราวสยองขวัญที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ในยุคดิจิทัล หนังผี ไทยก็ยังคงเป็นแนวที่ได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย ไม่ว่าจะเป็นผีสาวผมยาวหน้าขาวซีด ผีเด็กที่โผล่มาหลอกหลอน หรือผีตายโหงที่ตามมาทวงแค้น แต่ละเรื่องก็มีเอกลักษณ์ที่ทำให้เราอินและกลัวไปตามๆ กัน บางทีก็แอบคิดนะว่าเบื้องหลังความหลอนพวกนี้ มีอะไรที่น่าสนใจซ่อนอยู่บ้าง
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจโลกของ หนังผี ไทยแบบเจาะลึก เราจะมาดูกันว่าอะไรคือเสน่ห์ที่ทำให้เรายังคงติดหนึบกับความสยองขวัญเหล่านี้อยู่เสมอ ตั้งแต่เทคนิคการสร้างบรรยากาศที่ชวนขนหัวลุก ไปจนถึงเรื่องราวเบื้องหลังที่สะท้อนความเชื่อและวัฒนธรรมไทย รับรองว่าอ่านจบแล้ว คุณอาจจะมอง หนังผี ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!
1. พนอ
ท่ามกลางความเงียบสงัดของหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในป่าลึก “พนอ” ได้ถือกำเนิดขึ้นจากตำนานเล่าขานถึงวิญญาณหญิงสาวที่ถูกกระทำอย่างโหดเหี้ยม เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ “แพร” (รับบทโดย…) หญิงสาวผู้มีสัมผัสพิเศษ ต้องเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดของเธอที่ห่างหายไปนาน เพื่อจัดการมรดกของย่าผู้ล่วงลับ ทันทีที่เธอก้าวเท้าเหยียบย่างเข้ามาในหมู่บ้าน บรรยากาศอึมครึมและความรู้สึกบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ก็เข้าครอบงำ ราวกับว่ามีบางสิ่งกำลังรอคอยการกลับมาของเธอ
จุดเด่นของ “พนอ” ไม่ได้อยู่ที่เพียงความน่ากลัวของภูตผีปีศาจเท่านั้น แต่ยังอยู่ที่การค่อยๆ เปิดเผยปมปริศนาเบื้องหลังการตายของ “พนอ” ผ่านภาพหลอน เสียงกระซิบ และเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นรอบตัวแพร ผู้ชมจะถูกดึงดูดเข้าสู่เรื่องราวทีละน้อย ราวกับกำลังปะติดปะต่อชิ้นส่วนของความจริงที่กระจัดกระจาย
ฉากสำคัญที่ไม่อาจลืมเลือนได้คือฉากที่แพรได้พบกับวิญญาณของพนอเป็นครั้งแรกในเรือนไทยเก่าแก่ที่เคยเป็นที่อยู่ของเธอ บรรยากาศของฉากนี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นอย่างประณีต ด้วยแสงสลัวๆ เงาตะคุ่มๆ และเสียงโหยหวนที่ดังแว่วมาเป็นระยะๆ ทำให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัว อีกฉากที่น่าประทับใจคือฉากย้อนอดีตที่เผยให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานของพนอในอดีต ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของความแค้นและโศกนาฏกรรมที่ตามหลอกหลอนมาจนถึงปัจจุบัน ฉากเหล่านี้ไม่ได้เพียงแต่สร้างความหวาดกลัว แต่ยังสร้างความรู้สึกเห็นอกเห็นใจต่อตัวละครพนอ และทำให้ผู้ชมตั้งคำถามถึงความหมายของความยุติธรรมและการให้อภัย
“พนอ” คือภาพยนตร์ผีที่ไม่ได้เน้นแค่การ Jump Scare หรือฉากที่ทำให้ตกใจเท่านั้น แต่ยังสอดแทรกประเด็นทางสังคมและความเชื่อพื้นถิ่นได้อย่างกลมกลืน ด้วยการดำเนินเรื่องที่ค่อยๆ บีบคั้นอารมณ์ และการเปิดเผยความจริงที่ชวนให้ติดตามจนถึงนาทีสุดท้าย ทำให้ “พนอ” เป็นภาพยนตร์ผีที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวลึกลับซับซ้อน และความหลอนที่กัดกินไปถึงจิตใจ

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://sfcinemacity.com/
- นำแสดงโดย: ณเดชน์ คูกิมิยะ, ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์, มาริโอ้ เมาเร่อ, ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์
- ประเภท: สยองขวัญ, แอคชั่น, ระทึกขวัญ
- ความยาว: 2 ชั่วโมง 15 นาที
- กำหนดฉาย: 31 ตุลาคม 2568
- ช่องทางรับชม: โรงภาพยนตร์ชั้นนำทั่วประเทศ, แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง
2. ธี่หยด 2
เรื่องราวของ “ธี่หยด” เริ่มต้นขึ้นจากประสบการณ์จริงของคุณกิตติ ผู้เป็นเจ้าของเรื่องเล่าสุดโด่งดังบน Pantip ที่เล่าถึงเหตุการณ์เหนือธรรมชาติสุดหลอนในครอบครัวที่ต้องเผชิญกับ ผีปอบ ที่ออกอาละวาดเข้าสิงหญิงสาวในหมู่บ้าน โดยเฉพาะกับน้องสาวคนเล็กของครอบครัว “แย้ม” ที่เป็นเหยื่อหลักของวิญญาณร้ายนี้ ภาคแรกได้ปูทางให้เราได้เห็นถึงความน่ากลัวของผีร้ายที่แฝงตัวอยู่ใกล้ๆ ตัว และสร้างความหวาดระแวงไปทั่วทั้งบ้าน
ใน “ธี่หยด 2” คาดการณ์ว่าเนื้อหาจะสานต่อจากจุดสิ้นสุดของภาคแรก โดยอาจจะเผยให้เห็นถึงผลพวงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแย้ม หรือการกลับมาของผีร้ายตนเดิมที่ยังคงตามหลอกหลอนครอบครัวนี้ไม่หยุดยั้ง จุดเด่น ที่จะยังคงเป็นหัวใจหลักของเรื่องคือ บรรยากาศชนบทที่เงียบสงบแต่แฝงไปด้วยความเร้นลับ ซึ่งเป็นฉากหลังที่สมบูรณ์แบบสำหรับเรื่องราวสยองขวัญที่เน้นความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์และวิญญาณในท้องถิ่น เสียง “ธี่หยด” ที่เป็นเอกลักษณ์ จะยังคงเป็นกิมมิกสำคัญที่สร้างความหลอนแบบจับใจ และอาจจะมีการเผยถึงที่มาหรือเบื้องลึกเบื้องหลังของคำนี้มากขึ้น
ฉากสำคัญที่น่าจับตา คือฉากที่ผีร้ายเข้าสิงร่างตัวละครต่างๆ โดยเฉพาะการแสดงออกถึงความทรมานและผิดปกติของผู้ที่ถูกสิง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความหลอน และอาจมีการเพิ่มความรุนแรงของฉากเหล่านั้นให้ผู้ชมได้สะพรึงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ฉากการต่อสู้หรือพิธีกรรมไล่ผีที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ก็เป็นสิ่งที่แฟนๆ คาดหวังว่าจะได้เห็นในภาคต่อ เพื่อเปิดเผยแนวทางในการกำจัดสิ่งชั่วร้ายนี้ให้สิ้นซาก
หากภาคแรกพาเราไปสัมผัสกับความหวาดกลัวที่คลืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ ภาคสองอาจจะพาเราไปพบกับการเผชิญหน้าโดยตรงกับความชั่วร้ายนั้นอย่างเต็มรูปแบบ เตรียมใจให้พร้อมกับประสบการณ์สยองขวัญที่ทวีคูณ และความลับที่กำลังจะถูกเปิดเผยใน “ธี่หยด 2”

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://sfcinemacity.com/
- นำแสดงโดย: คาดการณ์ว่านักแสดงหลักจากภาคแรกจะกลับมานำแสดงอีกครั้ง เช่น ณเดชน์ คูกิมิยะ, มิ้ม-รัตนวดี วงศ์ทอง, เดนิส-เจลีลชา คัปปุน, จูเนียร์-กาจบัณฑิต ใจดี, เฟรนด์-พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ, นีน่า-ณัฐริกา ปิ่นทองคำ, ปราบต์ปฎล สุวรรณบาง
- ประเภท: สยองขวัญ, ระทึกขวัญ, ดราม่า
- ความยาว: ยังไม่มีการยืนยัน (โดยปกติภาพยนตร์ไทยประเภทนี้จะมีความยาวประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง)
- กำหนดฉาย: ยังไม่มีการยืนยันกำหนดฉายอย่างเป็นทางการ คาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงปลายปี 2568 ถึงปี 2569
- ช่องทางรับชม: คาดว่าจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ก่อนเป็นอันดับแรก และหลังจากนั้นอาจจะมีช่องทางรับชมแบบสตรีมมิ่ง เช่น Netflix, Prime Video, หรือ Disney+ Hotstar ตามมา
3. ห่าก้อม
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ หยก (ฝน-พัชริดา พินิจศักดิ์) หญิงสาวที่ทำงานในร้านอาหาร ซึ่งถูกสังคมออนไลน์ประณามว่าเป็นต้นเหตุการตายของเพื่อนสนิท เพียงเพราะโพสต์ข้อความสบประมาทอีกฝ่าย จนเกิดเรื่องขึ้น โดยที่เธอไม่ได้ตั้งใจและไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เธอเลือกที่จะเก็บตัวและหลีกหนีจากโลกภายนอก จนกระทั่งวันหนึ่ง วิญญาณของเพื่อนที่ตายไปปรากฏขึ้นเพื่อตามหลอกหลอน สร้างความหวาดผวาให้กับหยกอย่างไม่หยุดหย่อน ยิ่งไปกว่านั้น ความสยองขวัญไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในบ้านของหยกเท่านั้น แต่ยังขยายวงกว้างไปสู่คนรอบข้างที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นด้วย
จุดเด่นของ “ห่าก้อม” อยู่ที่การนำเสนอเรื่องราวได้อย่างน่าติดตาม โดยเฉพาะการสร้างบรรยากาศที่อึมครึมและกดดัน ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนถูกจับจ้องจากบางสิ่งบางอย่างที่มองไม่เห็นตลอดเวลา การสอดแทรกประเด็นเรื่องการบุลลี่ในโลกออนไลน์และการตัดสินคนจากข่าวสารเพียงด้านเดียว เป็นการสะท้อนปัญหาสังคมในปัจจุบันได้อย่างน่าสนใจ ทำให้หนังไม่ใช่แค่เรื่องผีธรรมดา แต่ยังแฝงข้อคิดเตือนใจถึงผลกระทบจากการกระทำในโลกไซเบอร์
“ห่าก้อม” ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ผีที่เน้นความน่ากลัว แต่ยังเป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึงด้านมืดของสังคมและจิตใจมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง หากคุณเป็นคอหนังสยองขวัญที่ชอบเรื่องราวที่ซับซ้อนและแฝงข้อคิด “ห่าก้อม” เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาด.

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.facebook.com/MajorGroup/photos
- นำแสดงโดย: ฝน-พัชริดา พินิจศักดิ์, นัต-นัทธวัต สุขใส
- ประเภท: สยองขวัญ, ระทึกขวัญ
- ความยาว: 1 ชั่วโมง 40 นาที
- กำหนดฉาย: 13 กรกฎาคม 2565
- ช่องทางรับชม: Prime Video
4. สัปเหร่อ 2
เตรียมตัวดำดิ่งสู่โลกแห่งความเชื่อ ความศรัทธา และความตาย ที่จะทำให้คุณหัวเราะไปกับความวายป่วง และซาบซึ้งไปกับเรื่องราวของชีวิตหลังความตายที่สัมผัสหัวใจ ในภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” ที่จะพาคุณไปสำรวจทุกซอกทุกมุมของอาชีพผู้ปลงศพ ในมุมที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน!
สรุปเนื้อหาโดยเน้นจุดเด่น และฉากสำคัญ ใจความของเรื่อง ในรูปแบบของการเล่าเรื่อง ชวนให้น่าติดตาม:
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในหมู่บ้านชนบทอันเงียบสงบ ที่ซึ่งความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นเพียงการเริ่มต้นของอีกบทหนึ่ง และผู้ที่คอยจัดการบทส่งท้ายนี้ก็คือ “สัปเหร่อ” อาชีพที่ดูเหมือนจะลี้ลับและน่าขนลุก แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ สัปเหร่อไม่ได้มีแค่เรื่องผี ๆ เท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวของชีวิตที่ต้องดำเนินต่อไป… และความรักที่ข้ามภพชาติ
หัวใจหลักของเรื่องราวอยู่ที่ “เจิด” หนุ่มน้อยที่ต้องมารับช่วงต่ออาชีพสัปเหร่อจากพ่อของเขา แม้จะไม่อยากทำ แต่ด้วยสถานการณ์บีบบังคับ เขาจึงต้องเผชิญหน้ากับความกลัวและความไม่มั่นใจในตัวเอง แต่แล้วโชคชะตาก็พาให้เขาได้พบกับ “เซียง” เพื่อนสนิทที่ยังคงโศกเศร้ากับการจากไปของแฟนสาวผู้ล่วงลับ “ผีแพร” ผู้ยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ๆ และสื่อสารกับเซียงผ่านความฝัน เซียงเชื่อมั่นว่าการทำพิธีบางอย่างจะช่วยให้วิญญาณของแพรไปสู่สุขคติได้
จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการนำเสนอวิถีชีวิตของชาวอีสานได้อย่างสมจริง ทั้งภาษาถิ่น สำเนียง วัฒนธรรม และความเชื่อเรื่องผีสางเทวดา ซึ่งถูกร้อยเรียงเข้ากับพล็อตเรื่องได้อย่างกลมกลืน ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงความสนุกสนานปนซึ้ง การใช้มุกตลกพื้นบ้านที่เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดเรื่อง ตัดสลับกับฉากซึ้งกินใจที่ทำให้เราน้ำตาคลอ

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://sfcinemacity.com/
- นำแสดงโดย: ต้องเต ธิติ ศรีนวล, อัจฉริยะ ศรีทา, นฤเบศร์ ฤทธิ์สมบูรณ์, ภคนันท์ วินัย, ชาติชาย ชินศรี
- ประเภท: สยองขวัญ, ตลก, ดราม่า, ลึกลับ
- ความยาว: ประมาณ 2 ชั่วโมง (120 นาที)
- กำหนดฉาย: คาดว่าจะปลายปี 2568 หรือต้นปี 2569 (ยังไม่มีการยืนยัน)
- ช่องทางรับชม: โรงภาพยนตร์ชั้นนำทั่วประเทศ, และอาจมีช่องทางสตรีมมิ่งในภายหลัง (เช่น Netflix, Prime Video หรือแพลตฟอร์มของไทย)
5. ท่าแร่
จากตำนานเล่าขานของหมู่บ้านท่าแร่ จังหวัดนครพนม สู่ภาพยนตร์สยองขวัญที่ชวนให้ขนหัวลุก “ท่าแร่” คือเรื่องราวของการเดินทางกลับบ้านเกิดของ พิม (ลลนา สุลาวัลย์) หญิงสาวผู้ต้องเผชิญหน้ากับอดีตอันมืดมิดและวิญญาณร้ายที่ตามหลอกหลอน
ใจความสำคัญของเรื่อง อยู่ที่การเปิดเผยความลับดำมืดที่ซ่อนอยู่ในหมู่บ้านท่าแร่ พิมที่ตัดสินใจกลับมาดูแลยายและฟื้นฟูกิจการโฮมสเตย์ของครอบครัว ต้องพบกับเหตุการณ์ประหลาดและน่าสะพรึงกลัวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสียงกรีดร้องโหยหวนจากป่าช้า กลิ่นธูปปริศนาที่โชยมาตามลม หรือเงาตะคุ่มที่ปรากฏขึ้นในความมืด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่ามีบางสิ่งที่ไม่ใช่คนคอยวนเวียนอยู่รอบตัวเธอ
จุดเด่นและฉากสำคัญ ของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ที่การสร้างบรรยากาศที่น่ากลัวและกดดันได้อย่างยอดเยี่ยม ผู้กำกับใช้ประโยชน์จากโลเคชั่นจริงริมแม่น้ำโขงที่เต็มไปด้วยความลึกลับและอ้างว้าง รวมถึงความเชื่อเรื่องผีปอบและสิ่งลี้ลับของชาวบ้านในพื้นที่ มาผสมผสานกับเรื่องราวได้อย่างลงตัว ฉากที่พิมต้องเผชิญหน้ากับวิญญาณร้ายในป่าช้า หรือฉากที่เธอถูกตามหลอกหลอนภายในบ้านเก่าแก่ ล้วนเป็นฉากที่ทำให้ผู้ชมต้องลุ้นระทึกจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ นอกจากนี้ การแสดงของลลนา สุลาวัลย์ ในบทพิม ก็สามารถถ่ายทอดความหวาดกลัว ความสับสน และความมุ่งมั่นของตัวละครออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ
ท่าแร่ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพยนตร์ผีที่เน้นความน่ากลัวเท่านั้น แต่ยังแฝงไปด้วยประเด็นทางสังคมและวัฒนธรรม โดยเฉพาะเรื่องราวของความเชื่อ ความผูกพันในครอบครัว และการเผชิญหน้ากับอดีตที่เจ็บปวด เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องได้อย่างน่าติดตาม ชวนให้ผู้ชมดำดิ่งไปกับความลึกลับและร่วมลุ้นไปกับพิมในการไขปริศนาที่ซ่อนอยู่ในท่าแร่จนถึงนาทีสุดท้าย

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://sfcinemacity.com/
- นำแสดงโดย: ลลนา สุลาวัลย์, สมชาย เข็มกลัด, พงศ์พิชญ์ คงนาค
- ประเภท: สยองขวัญ, ระทึกขวัญ, ดราม่า
- ความยาว: 90 นาที
- กำหนดฉาย: 13 กรกฎาคม 2565
- ช่องทางรับชม: Netflix
6. พระไม้
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ พระไม้โบราณ ที่ถูกทอดทิ้งในป่าลึก ได้ถูกค้นพบโดยกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง แต่แล้วหลังจากที่นำพระไม้กลับมายังหมู่บ้าน ความสงบสุขก็อันตรธานหายไป แทนที่ด้วยเหตุการณ์ประหลาดและน่าสะพรึงกลัวที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเสียงร่ำไห้โหยหวนในยามค่ำคืน ภาพหลอนที่ปรากฏขึ้นในทุกมุมมืด หรือแม้แต่การเสียชีวิตอย่างปริศนาของผู้คนในหมู่บ้าน เหตุการณ์เหล่านี้ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาบีบรัดหัวใจผู้คน และกระตุ้นให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงอันน่าขนลุกที่ว่า “พระไม้” ไม่ใช่เพียงแค่พระพุทธรูปธรรมดา แต่เป็นที่สิงสถิตของบางสิ่งบางอย่างที่ต้องการปลิดชีพ!
ฉากสำคัญที่ห้ามพลาด คือฉากที่ตัวละครหลักเริ่มสัมผัสได้ถึงพลังงานลึกลับจากพระไม้ ไม่ว่าจะเป็นการเห็นเงาตะคุ่มๆ ที่ตามหลอกหลอน หรือเสียงกระซิบอันเย็นยะเยือกที่ดังขึ้นในความเงียบงัน ไปจนถึงฉากสุดระทึกที่ตัวละครพยายามจะกำจัดพระไม้ออกไปจากชีวิต แต่กลับถูกสิ่งเร้นลับตอบโต้กลับอย่างรุนแรงและโหดร้าย ทำให้ผู้ชมต้องลุ้นระทึกไปกับการเอาชีวิตรอดของพวกเขา และฉากจบที่เผยให้เห็นถึงความจริงเบื้องหลังตำนานพระไม้ที่ไม่ได้จบลงง่ายๆ พร้อมทิ้งปมปริศนาให้ผู้ชมได้ขบคิดต่อ
“พระไม้” ไม่ได้เน้นแค่ความน่ากลัวจากภูตผี แต่ยังสอดแทรกประเด็นความเชื่อ ความศรัทธา และผลกรรมจากการกระทำของมนุษย์ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความลึกซึ้งและน่าติดตามมากกว่าแค่หนังผีทั่วไป คุณจะได้เห็นความหวาดกลัวที่กัดกินจิตใจตัวละคร และการต่อสู้กับสิ่งที่มองไม่เห็น ซึ่งบางครั้งอาจจะน่ากลัวกว่าสิ่งที่มองเห็นเสียอีก

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://sfcinemacity.com/
- นำแสดงโดย: ท็อป ดารณีนุช ปสุตนาวิน, สุเทพ สีใส, ธีรวัฒน์ ทองจิตติ
- ประเภท: สยองขวัญ, ระทึกขวัญ
- ความยาว: 1 ชั่วโมง 32 นาที
- กำหนดฉาย: 26 ธันวาคม 2562
- ช่องทางรับชม: ช่องทางสตรีมมิ่งบางแพลตฟอร์ม (อาจต้องตรวจสอบอีกครั้ง ณ ปัจจุบัน), หรือรอการเผยแพร่ทางโทรทัศน์
7. พี่นาค4
สำหรับใครที่ติดตามจักรวาล “พี่นาค” มาตั้งแต่ภาคแรก คงจะรู้ดีว่าภาพยนตร์ชุดนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังในเรื่องความหลอนปนฮา และ “พี่นาค 4” ก็กลับมาตอกย้ำความสำเร็จอีกครั้งด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้นยิ่งขึ้น พร้อมฉากสะพรึงที่รับรองว่าคุณจะนอนไม่หลับไปอีกหลายคืน!
เรื่องราวของ “พี่นาค 4” เริ่มต้นขึ้นเมื่อ “โหน่ง” (รับบทโดย คุณนนท์-ธนลภย์) ชายหนุ่มผู้กำลังจะบวช ต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ทำให้พิธีบวชต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เหตุการณ์นี้เองที่นำพาโหน่งและเพื่อนพ้องอย่าง “บอลลูน” (คุณเอม-วิทวัส) และ “เฟิร์ส” (คุณเจมส์-ภูริพรรธน์) ให้ต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวลี้ลับเหนือธรรมชาติที่ดำมืดและอันตรายกว่าที่เคยเจอมา
จุดเด่นและใจความสำคัญของเรื่อง อยู่ที่การคลี่คลายปริศนาของคำสาปโบราณที่ฝังรากลึกอยู่ในวัดร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งเชื่อมโยงกับบาปกรรมที่เกิดขึ้นในอดีต ภาพยนตร์ไม่ได้เน้นแค่ความน่ากลัวของผีนาคเท่านั้น แต่ยังลงลึกถึงเบื้องหลังของความแค้น ความอาฆาต และความต้องการที่จะหลุดพ้นจากบ่วงกรรมที่ตามติดมาหลายภพชาติ
ฉากสำคัญที่น่าจดจำและเรียกเสียงเฮได้ มีตั้งแต่ฉากที่กลุ่มเพื่อนต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ประหลาดในป่าช้ากลางดึก ที่มีเสียงปริศนาและเงาตะคุ่มตามหลอกหลอน ไปจนถึงฉากสุดพีคที่เผยให้เห็นโฉมหน้าและพลังอำนาจของผีนาคตนใหม่ที่ดุร้ายกว่าเดิมหลายเท่าตัว ไม่เพียงเท่านั้น ความสัมพันธ์และมิตรภาพของตัวละครก็ถูกทดสอบอย่างหนักหน่วง เมื่อพวกเขาต้องเลือกว่าจะเผชิญหน้ากับความกลัว หรือยอมจำนนต่อโชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้
“พี่นาค 4” ไม่ได้เป็นแค่หนังผีที่เน้นความสยองขวัญเท่านั้น แต่ยังสอดแทรกประเด็นเกี่ยวกับกรรมดีกรรมชั่ว การให้อภัย และการเผชิญหน้ากับอดีตที่ผิดพลาดได้อย่างแยบยล พร้อมด้วยมุกตลกตามสไตล์ “พี่นาค” ที่มาช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้เป็นระยะ รับรองว่าคุณจะได้รับทั้งความสนุก ความหลอน และข้อคิดดีๆ กลับบ้านไปอย่างแน่นอน ใครที่ชอบหนังผีไทยที่ครบรส ต้องไม่พลาด “พี่นาค 4” ครับ!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://sfcinemacity.com/
- นำแสดงโดย: มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร, ต้า-อธิวัตน์ แสงชูโต, เอม-วิทวัส รัตนบุญบารมี, เจมส์-ภูริพรรธน์ คิ้มธีรศรี, นนท์-ธนลภย์ ปรีดามาโนช
- ประเภท: สยองขวัญ, ตลก
- ความยาว: 1 ชั่วโมง 40 นาที
- กำหนดฉาย: 29 กุมภาพันธ์ 2567
- ช่องทางรับชม: โรงภาพยนตร์ (ในช่วงแรกของการฉาย), และอาจมีให้บริการทางแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งในภายหลัง (ขึ้นอยู่กับการจัดจำหน่าย)
8. เทอม 3
“เทอม 3” ไม่ใช่แค่หนังผีทั่วไป แต่เป็นการรวบรวมเรื่องเล่าสุดหลอนในรั้วมหาวิทยาลัยถึง 3 เรื่องราว ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาของเทอม 3 ซึ่งเป็นช่วงที่นักศึกษามักจะใช้ชีวิตอย่างหนักหน่วงและแปลกแยกออกไปจากปกติ ทำให้บรรยากาศความน่าสะพรึงกลัวเพิ่มขึ้นทวีคูณ แต่ละเรื่องราวในหนังจะนำเสนอความสยองขวัญในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป โดยมีจุดเชื่อมโยงอยู่ที่ความเชื่อและตำนานในมหาวิทยาลัยอันเก่าแก่
เรื่องแรก “เดอะซีเนียร์” พาเราไปพบกับกลุ่มนักศึกษาปีหนึ่งที่ต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ประหลาดในหอพักชายที่ขึ้นชื่อเรื่องความเฮี้ยนของ “รุ่นพี่” ที่จากไปอย่างไม่ปกติ ฉากสำคัญคือการที่พวกเขาต้องผ่านพิธีกรรมรับน้องสุดหลอน ที่ทำให้พวกเขาได้พบกับสิ่งที่มองไม่เห็น และสัมผัสได้ถึงการปรากฏตัวของวิญญาณรุ่นพี่ที่ยังคงวนเวียนอยู่ การดำเนินเรื่องจะค่อยๆ สร้างความตึงเครียดและชวนให้ขนลุกไปกับการปรากฏตัวของผีรุ่นพี่ที่มาในรูปแบบที่คาดไม่ถึง
เรื่องที่สอง “พี่เทค” เป็นเรื่องราวความรักและความผูกพันระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง ที่กลับกลายเป็นความสยองขวัญเมื่อ “พี่เทค” ที่ดูแลน้องๆ อย่างดี กลับมีเบื้องหลังที่น่ากลัวกว่าที่คิด ฉากสำคัญคือการเฉลยความจริงอันน่าตกใจเกี่ยวกับตัวตนของพี่เทค ที่ทำให้ผู้ชมต้องลุ้นระทึกและตกใจกับหักมุมของเรื่องราว ความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนจะอบอุ่นกลับกลายเป็นความหลอนที่ยากจะลืมเลือน
เรื่องสุดท้าย “เทพศิษย์” พาเราดำดิ่งสู่ความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์และสิ่งลี้ลับในรั้วมหาวิทยาลัย เมื่อนักศึกษาผู้หนึ่งต้องเข้าไปพัวพันกับพิธีกรรมบูชายัญโบราณที่นำมาซึ่งหายนะ ฉากสำคัญคือการที่ตัวละครหลักต้องเผชิญหน้ากับสิ่งเหนือธรรมชาติที่ทรงพลังและน่ากลัวที่สุด โดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน การดำเนินเรื่องในส่วนนี้จะเต็มไปด้วยความลึกลับและพิธีกรรมที่ชวนให้ติดตามจนจบ
โดยรวมแล้ว “เทอม 3” เป็นภาพยนตร์ผีที่นำเสนอความหลากหลายของเรื่องราวสยองขวัญในบรรยากาศมหาวิทยาลัยได้อย่างน่าสนใจ จุดเด่นคือการสร้างอารมณ์ร่วมไปกับตัวละคร การดำเนินเรื่องที่ชวนให้ติดตาม และฉากหลอนที่สร้างความประทับใจ ทำให้เป็นหนังผีที่คอหนังสยองขวัญไม่ควรพลาด

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://sfcinemacity.com/
- นำแสดงโดย: ตาต้า-ชาติชาย ชินศรี, อุ้ม-อิษยา ฮอสุวรรณ, แฟร์-กันต์ดนย์ อะคาซาน, ต้าห์อู๋-พิทยา แซ่ฉั่ว, แฟรงค์-ภคชนก์ โชติคงเจริญ, นาน่า-ศวรรยา ไพศาลพยัคฆ์, มาร์ช-จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล, ฟรัง-นรีกุล เกตุประภากร, กิตติ-กิตติศักดิ์ ปฐมบูรณา, เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม, ตี๋ใหญ่-ฝันดี จรรยาธนากร, เฟรช-อริศรา วงษ์ชาลี, มิวสิค-แพรวา สุธรรมพงษ์, จูเนียร์-ปณชัย ศรีอาริยะรุ่งเรือง
- ประเภท: สยองขวัญ, ระทึกขวัญ, ชีวิต, ดราม่า
- ความยาว: 1 ชั่วโมง 56 นาที
- กำหนดฉาย: 28 มีนาคม 2567 (ในโรงภาพยนตร์)
- ช่องทางรับชม: ปัจจุบันสามารถรับชมได้ทางแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Netflix
9. อนงค์
“อนงค์” ไม่ใช่แค่หนังผีทั่วๆ ไป แต่เป็นหนังที่ผสมผสานความหลอนและความฮาได้อย่างลงตัว จุดเด่นของเรื่องคือการนำเสนอภาพของผีในมุมที่ต่างออกไป อนงค์ไม่ใช่ผีที่น่ากลัว แต่เป็นผีที่มีชีวิตชีวา มีความรู้สึก มีความฝัน และอยากใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป ทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันและเอาใจช่วยเธอตลอดทั้งเรื่อง
ฉากสำคัญ ที่เป็นหัวใจของเรื่องคือการที่เมฆและอนงค์ต้องมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน การที่คนเป็นต้องปรับตัวอยู่กับคนตาย ทำให้เกิดสถานการณ์สุดป่วนมากมาย โดยเฉพาะฉากที่อนงค์พยายามใช้ชีวิตเหมือนคนเป็น ไม่ว่าจะเป็นการแอบเรียนรู้การใช้ชีวิตผ่านโซเชียลมีเดีย การพยายามทำอาหาร หรือแม้กระทั่งการพยายามมีปฏิสัมพันธ์กับโลกภายนอก ล้วนสร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังมี ฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เมื่อกลุ่มเพื่อนของเมฆที่มาอาศัยอยู่ในบ้านไม่รู้ว่ามีผีสาวอาศัยอยู่ด้วย ทำให้เกิดเหตุการณ์ชวนขนหัวลุกในแบบฉบับหนังผี แต่ด้วยความที่อนงค์เป็นผีที่ไม่เคยทำร้ายใคร ทำให้ความน่ากลัวถูกเจือจางด้วยความน่ารักและอารมณ์ขันของเธอ
แต่แก่นแท้ของเรื่องที่ทำให้ “อนงค์” แตกต่างคือ ความรักและความผูกพัน ที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นระหว่างคนกับผี เมฆไม่ได้มองอนงค์เป็นเพียงแค่วิญญาณ แต่เขามองเห็นความเป็นมนุษย์และความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายใน ทำให้เรื่องราวไม่ใช่แค่หนังตลกปนผี แต่เป็นหนังที่อบอุ่นหัวใจและชวนให้ซาบซึ้งไปกับความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดานี้

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://sfcinemacity.com/
- นำแสดงโดย: เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ, โบว์-เมลดา สุศรี, ธามไท แพลงศิลป์, ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง, จี๋-สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร
- ประเภท: คอมเมดี้, สยองขวัญ, โรแมนติก
- ความยาว: 100 นาที
- กำหนดฉาย: 1 พฤษภาคม 2567
- ช่องทางรับชม : Netflix
10. อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม
“อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม” เป็นการรวมเรื่องเล่าสุดหลอนจากประสบการณ์จริงที่ถูกคัดสรรมาอย่างเข้มข้น แต่ละเรื่องราวถูกนำเสนอในรูปแบบที่เชื่อมโยงกันอย่างแยบยล ทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังฟังเรื่องเล่าจากปากคำของผู้ประสบเหตุการณ์จริง จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการสร้างบรรยากาศที่กดดัน ชวนให้ขนหัวลุกโดยไม่ต้องพึ่งพิง jumpscare ตลอดเวลา ความน่ากลัวมาจากความรู้สึกไม่ปลอดภัย ความอึดอัด และความจริงที่ว่าเหตุการณ์เหล่านี้อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้
ฉากสำคัญที่น่าจดจำ คือฉากที่ตัวละครต้องเผชิญหน้ากับความลี้ลับเพียงลำพัง ไม่ว่าจะเป็นเสียงปริศนาที่ดังขึ้นในความมืด หรือเงาตะคุ่มที่ปรากฏตัวโดยไม่คาดฝัน ฉากเหล่านี้ถูกนำเสนออย่างช้าๆ แต่ทรงพลัง ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับความหวาดกลัวที่กัดกินจิตใจของตัวละครได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ภาพยนตร์ยังมีการสอดแทรกประเด็นเกี่ยวกับความเชื่อ ศรัทธา และการเผชิญหน้ากับความกลัวในจิตใจของมนุษย์ ทำให้เรื่องราวไม่ได้เป็นแค่หนังสยองขวัญทั่วไป แต่มีความลึกซึ้งและน่าติดตามไปพร้อมกัน
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องผีที่เน้นบรรยากาศ การดำเนินเรื่องที่ชวนให้คิด และความหลอนที่แทรกซึมเข้ามาอย่างช้าๆ “อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม” คือภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาด!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/
- นำแสดงโดย: กิตติ เชี่ยววงศ์กุล, ธัณย์สิตา สุวัชราธนากิตติ์, ศกุนตลา เทียนไพโรจน์, พงศ์จักร พิษฐานพร, บุญสม อัครธรรมกุล, พรหมพร ยูวะเวส, ธนากร ชินกูล
- ประเภท: สยองขวัญ, ระทึกขวัญ
- ความยาว: 1 ชั่วโมง 36 นาที
- กำหนดฉาย: 13 ตุลาคม 2565
- ช่องทางรับชม : Netflix
ไม่ว่าคุณจะรู้สึกยังไงกับ หนังผี จะเป็นแนวโปรดที่ดูซ้ำๆ ได้ไม่เบื่อ หรือเป็นอะไรที่ขอเซย์โนตลอดไป แต่ก็ต้องยอมรับว่า หนังผี คือส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมบันเทิงที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน มันเป็นมากกว่าแค่ความกลัวที่อยู่บนจอ แต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อ ค่านิยม และจินตนาการของผู้คนในแต่ละยุคสมัยอีกด้วย
หวังว่าบทความนี้จะทำให้คุณได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ของ หนังผี และเข้าใจถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ในความสยองขวัญเหล่านี้มากขึ้นนะ คราวหน้าถ้าเจอ หนังผี เรื่องโปรด ลองเปิดใจดูอีกครั้งสิ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะค้นพบความหลอนในแบบที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อนก็ได้!